ดัชนี Euro Stoxx 50: ราคา การวิเคราะห์กราฟและคาดการณ์แนวโน้ม
ดัชนี Euro Stoxx 50 เป็นหนึ่งในดัชนีที่ได้รับการยอมรับสูงสุดทั่วโลก และ เป็นตัววัดสถานการณ์เศรษฐกิจของยุโรป โดยรวมบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 50 บริษัทในภูมิภาค จึงเป็นการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนมากมาย โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบการกระจายความเสี่ยง
ในบทความนี้เราจะพูดถึงรายละเอียดเกี่ยวกับ ความหมาย, ประวัติ, มีการดำเนินการอย่างไร และมุมมองในอนาคตของ Euro Stoxx 50 โดยท้ายสุดเราจะแนะนำโบรคเกอร์ที่คุณสามารถเทรด Euro Stoxx 50 ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว
ดัชนี Euro Stoxx 50 คืออะไร?
ด้านล่างนี้จะเป็นข้อมูลที่คุณจะต้องรู้เกี่ยวกับข้อดีและความเป็นไปได้ของดัชนี Euro Stoxx 50
ความหมายของ Euro Stoxx 50
Euro Stoxx 50 เป็นดัชนีอ้างอิงสำหรับตลาดของยุโรป ซึ่งอาจถูกเรียกง่ายๆว่า EU50 และเหมือนกับ CAC 40 ของฝรั่งเศส, ดัชนี Euro Stoxx 50 รวมกลุ่มบริษัท 50 บริษัทตามมูลค่าตลาดในยุโรป ทั้งนี้บางครั้งก็ถูกเรียกว่า “ EU stocks 50”
ดัชนี Euro Stoxx 50 เป็นดัชนีถูกน้ำหนักตลาดที่ประกอบด้วย 50 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดใน 11 ประเทศของยุโรป (ออสเตรีย, เบลเยียม, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, ไอร์แลนด์, อิตาลี, ลักเซมเบิร์ก, เนเธอร์แลนด์, โปรตุเกส และ สเปน) โดยเลือกจากบริษัทใน 19 ภาคอุตสาหกรรมตามมูลค่าตลาดแบบลอยตัว ทั้งนี้ดัชนีเป็นส่วนหนึ่งของ STOXX Limited โดยบริษัททั้ง 50 บริษัทมีมูลค่าตลาดประมาณ 60% ของดัชนี EURO STOXX Total Market (TMI)
ดัชนี Euro Stoxx 50 คำนวณอย่างไร?
Euro Stoxx 50 ถูกถ่วงน้ำหนักตามสัดส่วนของมูลค่าตลอดของแต่ละบริษัท ทั้งหมด 50 บริษัท โดยใช้รูปแบบลอยตัวเพื่อถ่วงน้ำหนักแต่ละหุ้น เช่น ร้อยละของจำนวนหุ้นที่อยู่บนตลาดหุ้น และเพื่อที่จะป้องกันความเสี่ยงจากการที่หุ้นจะมีน้ำหนักมากจนเกินไป จึงทำการจำกัดน้ำหนักสูงสุดที่ 10%
Euro Stoxx 50 อาจถูกคำนวณโดยรวมหรือไม่รวมการลงทุนใหม่ของเงินปันผลก็ได้เช่นกัน โดยจะมีการอัพเดทในเดือนกันยายนของแต่ละปี โดยการคัดเลือกบริษัทจะอ้างอิงจากการดำเนินการที่เอื้อประโยชน์ให้แก่หุ้นที่มีความมั่นคงสูงที่สุด
Euro Stoxx 50 ในอดีตและปัจจุบัน
Euro Stoxx 50 ถูกใช้งานเมื่อปี 1999 โดยบริษัทสหรัฐ Dow Jones เพื่อให้นักลงทุน Anglo-Saxon ได้ลงทุนในภาพรวมของเศรษฐกิจในยุโรปมากกว่าเพียงแค่ประเทศเดียว โดยเริ่มจากรวมกลุ่มบริษัทที่น่าสนใจที่สุดจากบริษัทยุโรปทั้งหมด ดังนั้น Euro Stoxx 50 จึงเป็นตัววัดผลประกอบการของบริษัทจาก 18 ภาคอุตสาหกรรมเหล่านั้น
Euro Stoxx 50 เริ่มต้นจากบริษัทฝรั่งเศสเป็นส่วนใหญ่ (14), ตามด้วยเยอรมัน (11) และ เนเธอร์แลนด์ (10) ต่อด้วย อิตาลี, สเปน, ไอร์แลนด์, ฟินแลนด์ และ โปรตุเกส
เมื่อคำนวณผลประกอบการรายปี จะพบจุดเด่นของดัชนีดังนี้
- ผลตอบแทนต่อปี (ไม่รวมเงินปันผล): 4.3% ต่อปี
- ผลตอบแทนต่อปี (รวมเงินปันผล): 6.5% ต่อปี
ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่ามีความแตกต่างระหว่างดัชนีทั้งสองรูปแบบอย่างชัดเจน โดยหุ้นทั้ง 50 ตัวใน Euro Stoxx 50 เป็นหุ้นของบริษัทที่มีขนาดใหญ่และความมั่นคงสูง รวมถึงเป็นบริษัทที่เป็นผู้นำของตลาดที่มีการจ่ายเงินปันผลจากกำไรเป็นจำนวนมาก
การเปลี่ยนแปลงด้านราคาของ Euro Stoxx 50
ในส่วนนี้เราจะแสดงให้เห็นข้อมูลในอดีตของ Euro Stoxx 50 และทราบถึงแนวโน้มหลักที่ผ่านมา
กราฟ – ดัชนี Euro Stoxx 50
เริ่มต้นด้วยการดูกราฟ Euro Stoxx 50 แบบรายเดือนเพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงของการวิเคราะห์นี้
หลังจากการเติบโตเล็กน้อยประมาณ 1400 จุดนับจากช่วงเริ่มใช้งานในปี 1994 แล้ว ดัชนี Euro Stoxx 50 แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างชัดเจนที่ทำให้ราคาขึ้นไปสูงสุดที่ 5332 จุด ในเดือนเมษายน 2000 คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 280% ในระยะเวลาประมาณ 5 ปี และควรทราบว่าราคายังไม่เคยเพิ่มถึงจุดนี้นับตั้งแต่ช่วงเวลาดังกล่าว
เหตุการณ์ฟองสบู่อินเตอร์เน็ตในปี 2000 ทำให้ราคา Euro Stoxx 50 ลดลงอย่างมากจนร่วงลงมาที่ 1850 จุด ในเดือนมีนาคม 2003 คิดเป็น 188% ในเวลา 3 ปี
ต่อมาได้มีการฟื้นตัวต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี และ ขึ้นถึงจุดสูงสุดที่ 4572 จุด ในเดือนมิถุนายน คิดเป็นเกือบสามเท่าของมูลค่าเดิมในระยะเวลา 4 ปี แต่วิกฤตการณ์การเงินทั่วโลกในปี 2008 และ วิกฤตหนี้สินในยุโรป ทำให้ Euro Stoxx 50 มีมูลค่าตกลงอีกครั้ง และ ถึงจุดต่ำสุดที่ 1,765 จุด ในเดือน มีนาคม 2009 คิดเป็นการลดลง 61% ในเวลา 2 ปี
หลังจากนั้นดัชนี Euro Stoxx 50 ได้เข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เหตุการณ์โรคระบาดโควิด-19 ก็ทำให้ราคาของดัชนีลดลงอีกครั้งในปี 2020 แต่ก็มีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
ท้ายสุดนี้ คุณจะสามารถเห็นได้จากกราฟรายเดือนของ Euro Stoxx 50 ว่า เส้นแนวโน้มขาขึ้นที่มีผลนับตั้งแต่การเริ่มต้นใช้งานดัชนีนั้น ทำให้ผลกระทบเชิงลบจากโรคระบาดหยุดลง
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาของดัชนี Euro Stoxx 50?
ตามที่เราเห็นจากการเปลี่ยนแปลงในอดีตของราคา Euro Stoxx 50 นั้น ดัชนีได้รับผลกระทบจากปัจจัยที่หลากหลาย โดยตัวอย่างปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อราคาของ Euro Stoxx 50 มีดังนี้
- สภาพเศรษฐกิจของยุโรป แน่นอนว่ามีผลกระทบอย่างมากกับราคาดัชนี โดยในความเป็นจริงนั้น สถิติที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ยุโรป หรือ ประเทศสำคัญของยุโรป เช่น ฝรั่งเศส หรือ เยอรมัน จะมีผลกระทบเป็นอย่างมากต่อดัชนี
- หุ้นบางส่วนมีน้ำหนักในดัชนี Euro Stoxx 50 มากกว่าตัวอื่นๆ ดังนั้น ข่าวสารหรือผลการดำเนินการรายไตรมาสของหุ้นที่มีความสำคัญต่อดัชนี จะส่งผลโดยตรงกับราคา
- นโยบายการคลัง ในส่วนของนโยบายการคลังที่ออกจาก ECB มีผลสำคัญอย่างมาก โดยการเพิ่มอัตราดอกเบีั้ยจะส่งผลต่อต้นทุนการกู้ยืมของบริษัท ในขณะที่การลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยเหลือบริษัทในด้านการลงทุน
- รายรับหลักของบริษัท Euro Stoxx มาจากต่างประเทศ ดังนั้น ข้อตกลงทางการค้าของยุโรป กับ จีนหรือสหรัฐอเมริกา จะส่งผลต่อราคาดัชนี
บริษัทและองค์ประกอบของ Euro Stoxx 50
แม้ว่าจะไม่มีนโยบายในด้านความหลากหลาย แต่องค์ประกอบของ Euro Stoxx 50 มีการจัดสรรอย่างสมเหตุสมผล โดยแบรนด์ชั้นนำจากฝรั่งเศสมีมูลค่าสูงสุด คือ 18.3%, ตามด้วยเทคโนโลยีข่าวสาร 15.8%, อุตสาหกรรมและการเงิน 14.1% และ 13.8% ตามลำดับ
บริษัท 3 ลำดับแรกของ Euro Stoxx 50 ประกอบด้วย
- บริษัทของเนเธอร์แลนด์ ASML คิดเป็น 7.76%.
- กลุ่มบริษัทฝรั่งเศส LVMH เป็นลำดับสองโดยมีน้ำหนัก 5.82%.
- กลุ่มบริษัทเยอรมัน Linde เป็นลำดับสามที่ 4.32%.
และรายชื่อประเทศที่มีบริษัทคิดเป็นน้ำหนักสูงสุดมีดังนี้
- ฝรั่งเศส: 39%
- เยอรมัน: 33%
- เนเธอร์แลนด์: 11%
- สเปน: 9%
- อิตาลี: 5%
- เบลเยียม: 2%
- อื่นๆ: 1%
บริษัทใน Euro Stoxx 50 ถูกเลือกอย่างไร?
วิธีการคัดเลือกบริษัท ดัชนี Euro Stoxx 50 มีดังนี้
- ในเดือนสิงหาคมของแต่ละปี Quontigo จะทำการจัดอันดับบริษัทตามมูลค่าตลาดลอยตัวจากมากไปน้อย
- 40 บริษัทที่ใหญ่ที่และยังไม่ได้อยู่ในดัชนีจะถูกนำเข้าสู่ดัชนี
- 40 บริษัทที่มีรายชื่ออยู่ในดัชนีแต่ไม่อยู่ใน 40 ลำดับแรก จะถูกนำเข้าสู่ดัชนี
- หากยังไม่ครบองค์ประกอบ จะนำบริษัทที่มีตำแหน่งสูงสุดเข้าสู่ดัชนี
จุดประสงค์ในการใช้วิธีนี้คือการเลี่ยงการเปลี่ยนองค์ประกอบมากจนเกินไป
รายชื่อบริษัท Euro Stoxx 50
รายชื่อบริษัทที่สำคัญ 20 ลำดับแรกของ องค์ประกอบ Euro Stoxx 50 มีดังนี้
บริษัท | สัญลักษณ์ | หมวดธุรกิจ |
ASML HOLDING | ASML | เทคโนโลยี |
LVMH | MC | สินค้าใช้ในบ้าน |
LINDE | LIN | เคมี |
SAP | SAP | เทคโนโลยี |
SIEMENS | SIE | สินค้าและบริการ |
TOTAL ENERGIES | FP | ปิโตรเลียม |
SANOFI | SAN | ยา |
L’OREAL | OR | สินค้าใช้ในบ้าน |
SCHNEIDER ELECTRIC | SU | สินค้าและบริการ |
ALLIANZ | ALV | ประกัน |
ADYEN | ADYEN | ซอฟต์แวร์—โครงสร้างพื้นฐาน |
AIR LIQUIDE | AI | เคมี |
AIRBUS | AIR | การบินและอวกาศ |
PROSUS | PRX | อินเทอร์เน็ตสำหรับผู้บริโภค |
BNP PARIBAS | BNP | การธนาคาร |
DAIMLER | DAI | รถยนต์ |
DEUTSCHE POST | DPW | การขนส่ง |
BASF | BAS | เคมี |
DEUTSCHE TELEKOM | DTE | โทรคมนาคม |
IBERDROLA | IBE | สาธารณูปโภค |
ฉันควรเทรด Euro Stoxx 50 หรือไม่? สิ่งที่ควรพิจารณา
Euro Stoxx 50 เป็นดัชนีหุ้นที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนจำนวนมากและมีจุดเด่นที่สำคัญดังนี้
- เมื่อมองด้านความผันผวนแล้ว นักลงทุนชื่นชอบ Euro Stoxx 50 เพราะมีความผันผวนเพียงพอที่จะทำกำไรในการเทรดรายวัน แต่มีเหตุผลเพียงพอที่จะหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
- หุ้น Euro Stoxx 50 มีความหลากหลายทั้งด้านภาคอุตสาหกรรม และ ประเทศ จึงเป็นข้อได้เปรียบด้านความหลากหลายเมื่อเทียบกับดัชนีหุ้นอื่นๆ
- โบรคเกอร์ส่วนมาก รวมถึง ZFX อนุญาตให้คุณเทรด Euro Stoxx 50 ด้วยเลเวอเรจที่มากเพียงพอสำหรับการลงทุนในการเปลี่ยนแปลงระยะสั้นของดัชนี
- หากคุณเทรด Euro Stoxx 50 ด้วย CFDs เหมือนที่ ZFX แล้ว คุณจะสามารถขายดัชนีได้ ทำให้สามารถทำกำไรจากการลดลงของราคาได้เช่นเดียวกับการเพิ่มขึ้นของราคา
ฉันจะเทรดดัชนี Euro Stoxx 50 (EURO50) ได้อย่างไร?
ขั้นแรกที่ต้องทำ คือ การเลือกโบรคเกอร์ที่มีประสิทธิภาพและน่าเชื่อถือ ที่ให้บริการเครื่องมือในการเทรดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ โดยโบรคเกอร์ที่เข้าเงื่อนไขดังกล่าว คือ ZFX ซึ่งเป็นโบรคเกอร์ที่ได้รับการกำกับทางกฎหมาย และ ให้บริการแพลตฟอร์มเทรด MT4 รวมถึงสินทรัพย์ที่หลากหลายและค่าธรรมเนียมที่ต่ำ โดยมีขั้นตอนการลงทุน EURO50 ผ่านแพลตฟอร์ม ZFX ดังนี้
วิธีการเทรด ดัชนี Euro Stoxx 50 อย่างง่ายดาย
ทำการซื้อดัชนี Euro Stoxx 50 ผ่านโบรคเกอร์ ZFX อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โดยขั้นตอนการสมัครทั้งหมดสามารถทำในรูปแบบออนไลน์เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น แต่ละขั้นตอนมีรายละเอียดดังนี้
1 – สมัครบัญชีกับ ZFX
ขั้นแรกไปที่เว็บไซต์ ZFX และเลือก “เปิดบัญชี” จากนั้นกรอกข้อมูลส่วนตัวตามแบบฟอร์มการสมัคร รวมถึงเบอร์โทรศัพท์ที่จะต้องใช้ในการยืนยันผ่าน SMS
หลังจากกรอกแบบฟอร์มเสร็จสิ้น ให้กดที่ปุ่ม “ถัดไป” ด้านล่าง และทาง ZFX จะแสดงข้อมูลล็อกอินและรหัสผ่านของ MT4 พร้อมทั้งให้คุณดาวน์โหลดแพลตฟอร์ม
2 – ฝากเงินครั้งแรก
สำหรับขั้นตอนนี้ ให้เลือก “ฝากเงิน” ที่แสดงบนหน้าต่างถัดจากการสมัคร จากนั้นคุณจะต้องเลือกช่องทางชำระเงิน เช่น Mastercard
ในขั้นตอนนี้คุณจะต้องทำการกรอกจำนวนเงินฝาก และ กดที่ “ยืนยันการฝากเงิน” จากนั้นคุณจะต้องกรอกข้อมูลบัตรเครดิตเพื่อเข้าสู่การยืนยันการชำระเงินขั้นสุดท้าย
3 – ยืนยันบัญชี
คุณจำเป็นต้องทำการยืนยันข้อมูลบัญชี โดยการส่งเอกสารที่รองรับ
คุณจะต้องทำการอัพโหลดเอกสารไปที่เว็บไซต์ ZFX โดยตรงตามภาพที่แสดงด้านบน
4 – ซื้อดัชนี Euro Stoxx 50
เมื่อเอกสารของคุณได้รับการอนุมัติแล้ว คุณสามารถเริ่มซื้อดัชนี Euro Stoxx 50 ได้ทันที เพียงแค่เข้าสู่ระบบแพลตฟอร์ม MT4 และทำตามขั้นตอนที่แสดงบนหน้าจอ จากนั้นเลือก EURO50 และลงทุนได้ตามต้องการ
สิ่งที่ควรทราบก่อนลงทุนในดัชนี Euro Stoxx 50
ข้อแนะนำและเทคนิคที่จะช่วงให้คุณประสบความสำเร็จในการเทรด Euro Stoxx 50
- ดัชนีถูกเทรดในวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 9 am ถึง 5:30 pm
- Euro Stoxx 50 ฟิวเจอร์ส และ Euro Stoxx 50 ETF บางกลุ่ม (เช่น iShares Euro Stoxx 50 UCITS ETF) สามารถเทรดนอกเหนือช่วงเวลาเทรดปกติได้
- วิธีการลงทุนที่เป็นที่นิยมสูงสุด คือ เทรด Euro Stoxx 50 แบบ CFDs ซึ่งสามารถใช้เลเวอเรจและขายดัชนีได้
- หากคุณต้องการลงทุนในราคา Euro Stoxx 50 ระยะสั้นแล้ว คุณควรที่จะเรียนรู้วิธีการวิเคราะห์ทางเทคนิคและกราฟ
- นักเทรด Euro Stoxx 50 สามารถติดตามปฎิทินเศรษฐกิจในแต่ละวันเพื่อดูข้อมูลที่จะส่งผลต่อดัชนีในวันนั้นๆ
- คุณสามารถทดลองเทรด Euro Stoxx 50 โดยไม่มีความเสี่ยงด้วยบัญชีทดลองกับโบรคเกอร์ เช่น ZFX
- คุณจำเป็นที่จะต้องติดตามข่าวสารสำคัญของบริษัทในดัชนี Euro Stoxx 50 โดยเฉพาะผลประกอบการรายไตรมาส ซึ่งจะส่งผลกระทบสำคัญต่อราคาดัชนี
การพยากรณ์และการคาดการณ์อนาคตของดัชนี Euro Stoxx 50
มาดูที่การคาดการณ์ของ Euro Stoxx 50 เพื่อดูความเป็นไปได้ในการเพิ่มขึ้นหรือลดลงในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
คำแนะนำและการคาดการณ์จากนักวิเคราะห์
เพื่อที่จะเห็นมุมมองของนักวิเคราะห์ต่อดัชนี Euro Stoxx 50 นั้น เราจะต้องดูที่มุมมองต่อหุ้นที่มีมูลค่าสูงสุดในดัชนี คือ ASML Holding, LVMH, และ Linde
- สำหรับ ASML มันักวิเคราะห์ 24 แนะนำให้ทำการซื้อ, 6 รายแนะนำให้รอ และ 6 รายแนะนำให้ขาย โดยมีการตั้งเป้าหมายราคาเฉลี่ยที่สูงกว่าปัจจุบันกว่า 20%
- สำหรับ LVMH, นักวิเคราะห์ 23 จาก 29 ราย แนะนำให้ทำการซื้อ, 2 ราย แนะนำให้รอ และ 5 ราย แนะนำให้ขาย โดยเป้าหมายราคาเฉลี่ยจากนักวิเคราะห์เหล่านี้แสดงให้เห็นการเพิ่มขึ้นของราคาคิดเป็น 18% ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า
- ท้ายสุดสำหรับ Linde, ความเห็นส่วนมากแนะนำให้ทำการซื้อ โดยมีนักวิเคราะห์ 17 ราย แนะนำให้ซื้อ, 4 ราย แนะนำให้รอ และไม่มีนักวิเคราะห์ที่แนะนำให้ทำการขายแม้แต่รายเดียว โดยเป้าหมายราคาเฉลี่ยจากนักวิเคราะห์แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวสูงขึ้น 18% ของราคาหุ้น
โดยสรุปแล้ว นักวิเคราะห์ให้มุมมองขาขึ้นและตั้งเป้าหมายราคาที่ค่อนข้างสูงสำหรับหุ้นสำคัญใน Euro Stoxx 50 จึงมีความเป็นไปได้ถึงการเพิ่มขึ้นของมูลค่าดัชนี
การวิเคราะห์ ดัชนี Euro Stoxx 50 จากมุมมองปัจจัยพื้นฐานและเทคนิค
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากโควิด-19 ยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้น หลายส่วนของเศรษฐกิจยังคงเผชิญกับความยากลำบาก หมายความว่าการเติบโตในช่วงไม่กี่เดือนหรือปีข้างเป็นที่คาดการณ์ได้ ซึ่งการเติบโตดังกล่าวจะส่งผลประโยชน์ต่อตลาดดัชนีหุ้นทั่วโลกรวมทั้ง Euro Stoxx 50 จึงเป็นสถานการณ์ที่น่าลงทุนกับการฟื้นตัวของยุโรปหลังช่วงโรคระบาด
การคาดการณ์ทางเทคนิค
คุณจะได้เห็นจากการวิเคราะห์กราฟ Euro Stoxx 50 โดยกราฟรายสัปดาห์ Euro Stoxx 50 ด้านล่างนี้ให้เห็นว่าดัชนีอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่ช่วงราคาต่ำสุด 2,300 จุด ในเดือนมีนาคม 2020 และ Euro Stoxx 50 ขึ้นสูงสุดที่ 4250 จุด ในเดือนกันยายน 2021 คิดเป็น 85% ใน 1 ปีครึ่ง
ในช่วงเวลาดังกล่าว Euro Stoxx 50 ได้ทำลายแนวต้านระยะยาวที่ 2850 จุด ซึ่งเป็นสัญญาณถึงขาขึ้นสำหรับการเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4000 จุดอีกครั้ง ดังนั้นในระยะกลางของ Euro Stoxx 50 มีแนวโน้มอยู่ในขาขึ้นตราบใดที่ยังมีราคาสูงกว่าแนวรับที่ 3850 จุด
สรุป: ดัชนี Euro Stoxx 50 เป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่ในตอนนี้?
Euro Stoxx 50 เป็นดัชนีหุ้นที่มีข้อดีมากมาย โดยเฉพาะในด้านความหลากหลาย เนื่องจากรวมหุ้นจากหลากหลายประเทศในยุโรป ทำให้มีความหลากหลายมากกว่าดัชนีอื่นๆ ซึ่งเป็นจุดเด่นสำหรับนักลงทุนระยะยาว
ดัชนี Euro Stoxx 50 ก็ยังเป็นดัชนีที่เหมาะสำหรับการลงทุนรายวัน โดยเฉพาะถ้าคุณลงทุนผ่าน CFDs และยิ่งกว่านั้น เมื่อดูจากการวิเคราะห์ทั้งทางปัจจัยพื้นฐานและเทคนิคต่างชี้ว่า Euro Stoxx 50 จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในเดือนที่จะถึงนี้
เพียงแค่คุณลงทะเบียนกับโบรคเกอร์ ZFX ก็จะสามารถใช้โอกาสนี้ในการเทรดดัชนี Euro Stoxx 50 ได้ และ ZFX ยังให้บริการแพลตฟอร์ม MT4 ที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพสูง รวมถึงค่าธรรมเนียมที่ต่ำ และได้รับการรับรองทางกฎหมาย