A-to-Z Academy
A-to-Z Academy / ดัชนี

ดัชนี S&P 500: ราคาหุ้น กราฟ และการพยากรณ์

ธันวาคม 17, 2021 11:30

ดัชนีตลาดหุ้น S&P 500 เป็นดัชนีของบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 500 แห่งของสหรัฐ หนึ่งในการลงทุนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ดัชนี S&P 500 เหมาะสำหรับผู้ค้าระยะสั้นที่มีระดับความผันผวนที่เหมาะสมสำหรับการซื้อขายรายวัน เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่ชอบการลงทุนที่หลากหลายซึ่งติดอันดับต้นๆ ของโลก

ดัชนี S&P 500 – S&P 500 คืออะไร?

S&P เป็นดัชนีตลาดหุ้นที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก เมื่อสื่อรายงานเกี่ยวกับ “ตลาดกำลังลง” จะหมายถึง S&P 500 และเมื่อผู้จัดการกองทุนรายงานผลประกอบการ มักจะใช้ S&P 500 เป็นตัวเปรียบเทียบ ซึ่งทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญอย่างมากของ S&P 500 ต่อทุกคนที่สนใจเกี่ยวกับตลาดการเงิน โดยข้างล่างนี้คุณจะได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความหมายของ S and P 500

ความหมายของ S&P 500

S&P 500 เป็นดัชนีอ้างอิงจากบริษัทขนาดใหญ่ 500 บริษัทที่มีรายชื่อในตลาดหุ้นสหรัฐ โดยถูกสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 1957 และใช้ชื่อตามบริษัทการเงินที่ดูแลคือ Standard & Poor’s

ในฐานะตัวแทนของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกานั้น S&P 500 ได้แซงหน้า Dow Jones Industrial Average (รวม 30 บริษัทที่ใหญ่ที่สุด) และ NASDAQ (ดัชนีอ้างอิงของหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐ) และในระดับสากลนั้น S&P500 ถูกมองเป็นดัชนีอ้างอิงที่ชี้วัดภาพรวมเศรษฐกิจของโลกจากการที่รวมบริษัทมากมายซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นสัญชาติอเมริกา แต่เพียงแค่มีรายชื่ออยู่ในตลาดสหรัฐเท่านั้น

เป็นที่น่าสนใจว่า S and P 500 สะท้อนให้เห็นถึงมูลค่ารวมทั้งหมดเกือบ 80% ของตลาดสหรัฐ โดยจากมูลค่าทั้งหมดของ S&P นั้น มี 84.4% มาจาก NYSE, 15.5% จาก NASDAQ และ 0.1% จาก AMEX (ตลาดสหรัฐอันดับที่ 3)

ประวัติในอดีตและปัจจุบันของ S&P 500

SP500 เป็นดัชนีที่มีการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบอย่างมากมายในอดีตที่ผ่านมา โดยในแต่ละปีจะมีบริษัทมากมายที่เข้าและออกจากดัชนี เช่น นับตั้งแต่เมื่อต้นปี 2021 นั้น มีหุ้นจำนวน 15 ตัวที่ถูกนำเข้ามา และ 15 ตัวที่ถูกถอดออก

ท้ายที่สุดนั้น วิกฤตการณ์สำคัญในอดีตได้ส่งผลกระทบกับ S&P 500 ในอดีต โดยมีการลดลงครั้งสำคัญทั้งหมด 3 ครั้งในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเราจะได้เห็นด้านล่างนี้ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงของราคา S&P 500 ในอดีต โดยดัชนีได้ประสบความสำเร็จในฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ทุกครั้ง

TH index trading

การเปลี่ยนแปลงของราคาดัชนี S&P 500

ด้านล่างนี้เราจะอธิบายและวิเคราะห์ประวัติของ S&P 500 โดยอ้างอิงจากกราฟ S&P 500 รายเดือน

 กราฟ S&P 500

S&P 500 มีมูลค่าประมาณ 500 จุดในช่วงประมาณปี 1995 โดยขึ้นสูงสุดถึงราคา 1500 ในเดือนมีนาคม 2000 ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าในประมาณ 5 ปี เท่านั้น ตามที่เราได้เห็นในกราฟรายเดือนของ S&P 500 ด้านล่างนี้

วิกฤตการณ์อินเตอร์เน็ตส่งผลให้ S&P500 เข้าสู่แนวโน้มขาลง โดยร่วงลงมาที่ราคา $768 ในเดือนตุลาคม 2002 ซึ่งเป็นการตกลงครึ่งหนึ่งในเวลา 2 ปีครึ่ง

ต่อมา S&P 500 เข้าสู่ช่วงขาขึ้น 5 ปี โดยทะลุระดับแนวต้าน 1500 จุดเป็นระยะเวลาสั้นๆใน 5 ปีต่อมาในเดือนกันยายน 2007 แต่จากวิกฤตการณ์การเงินในปี 2008 ทำให้การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องใน 5 ปีก่อนหน้าถูกลบล้างไปในปีเดียว และ S&P 500 ลดต่ำลงเหลือ 666 จุดในเดือนมีนาคม 2009

นับตั้งแต่นั้นมา S&P ได้เข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว และแม้ว่าจะเผชิญกับโควิด-19 ในระยะสั้น ซึ่งแท้จริงแล้ว S&P 500 ปรับตัวลงจากประมาณ 3400 จุดสู่ 2200 จุดในระยะเวลา 2 เดือนจากช่วงโรคระบาดคิดเป็น 35% แต่อย่างไรก็ตามหลังจากลงสู่จุดต่ำสุดในเดือนมีนาคม 2020 นั้น ดัชนี S&P 500 ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 100% และขึ้นถึงระดับสูงสุดที่ 4545 จุดในเดือนกันยายน 2021

ผลประกอบการของดัชนี S&P 500

S&P 500 ได้ให้ผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุนมาตลอดในอดีต ตัวอย่างเช่น ผลตอบแทนต่อปีของดัชนี S&P 500 นั้นติดลบเพียงแค่ 10 ปีจาก 50 ปีหลังสุด โดยค่าเฉลี่ยผลตอบแทนต่อปีของ S&P นับตั้งแต่เริ่มใช้มีค่าเท่ากับ 12% และสูงกว่า 15% เมื่อรวมเงินปันผล หรืออีกนัยหนึ่งคือ การลงทุน $1 ใน S&P 500 ปี 1970 จะเท่ากับ $182 ในปัจจุบัน

ท้ายที่สุดนั้น ควรทราบว่าในช่วงสองปีล่าสุด คือ ปี 2019 และ 2020 นั้น S&P 500 ปรับตัวสูงขึ้นถึง 28.88% และ 16.26% ตามลำดับ

 ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคา SP500

จากการที่ S & P 500 ถูกจัดว่าเป็นตัวชี้วัดที่ดีที่สุดสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐ ทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐและทั่วโลกเป็นปัจจัยหลักสำหรับผลประกอบการราคาของ S&P500 ดังนั้นสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกที่ถูกวัดจากตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น GDP, อัตราการว่างงาน หรือ นโยบายการเงินของธนาคารกลางจะส่งผลโดยตรงต่อราคา S&P 500

และควรทราบว่า หุ้นเทคโนโลยี 3 ตัว คิดเป็น 16% ของดัชนีโดยรวม ดังนั้นแนวโน้มทางด้านสาขาเทคโนโลยีสามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อดัชนีรวมถึงข่าวที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับหุ้น 3 หุ้นนี้

บริษัทใน S&P 500

ในส่วนนี้จะเน้นไปที่การศึกษาบริษัทใน S&P 500 โดยเราจะรีวิวบริษัทที่มีน้ำหนักมากที่สุด และ การแบ่งภาคอุตสาหกรรมของดัชนี

หุ้นที่มีน้ำหนักมากที่สุดใน S&P 500

จากวิธีการคำนวณของ S&P 500 นั้นทำให้การเปลี่ยนแปลงของหุ้นบางตัวส่งผลต่อดัชนีมากกว่าหุ้นอื่นๆ โดยรายชื่อหุ้น 3 ตัวที่มีผลมากที่สุดต่อ SP500 มีดังนี้

  • Apple: 6.2% ของ S&P500
  • Microsoft: 5.9% ของ S&P500
  • Amazon: 3.9% ของ S&P500

 รายละเอียดของภาคอุตสากรรมของหุ้นใน S&P 500

เพื่อที่จะคาดการณ์ผลกระทบจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่สำคัญต่อ S&P 500 นั้น เป็นเรื่องจำเป็นที่จะทราบถึงรายละเอียดของภาคอุตสาหรกรรมในดัชนีหุ้น S&P:

Sector

WEIGHT 

Energy   2.28% 
Materials    2.63% 
Industrials   8.40% 
Consumer Discretionary  12.72% 
Consumer Staples  6.51% 
Health Care  13.46% 
Financials  10.44% 
Information Technology    27.61% 
Communication Services  10.77% 
Utilities    2.76% 
Real Estate  2.42% 

บริษัทใน S&P ถูกเลือกอย่างไร?

ตั้งแต่ปี 2005 นั้น มีจำนวนลอยตัวจำนวนมากที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับดัชนี โดยในความจริงนั้น บริษัทจำนวนมากใน 500 บริษัทที่มีรายชื่อนั้นมีผลกระทบต่อความแปรปรวนของดัชนีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุด 10 อันดับแรกใน SP500 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 26.6% ของดัชนี ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2021 โดยเงื่อนไขในการมีชื่อในดัชนี S&P 500 มีดังนี้

  • บริษัทใน S&P 500 จะต้องตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา
  • มูลค่าตลาดขั้นต่ำของบริษัทคือ $11.2 พันล้าน
  • จำนวนหุ้นขั้นต่ำ 50% จะต้องเป็นหุ้นลอยตัว
  • บริษัทจะต้องมีรายชื่ออยู่ในตลาดหุ้น New York Stock Exchange (NYSE) หรือ NASDAQ
  • อัตรารายรับต่อปีต่อมูลค่าตลาดขั้นต่ำ 0.3
  • ปริมาณการซื้อขายขั้นต่ำต่อเดือนคือ 250,000 หุ้นในแต่ละเดือนของ 6 เดือนล่าสุดก่อนทำการประเมิน
  • ข้อมูลทางการเงินมีความโปร่งใส

รายชื่อหุ้นใน S&P 500

ตารางด้านล่างนี้แสดงรายชื่อหุ้นที่ใหญ่ที่สุด 30 ลำดับแรกในดัชนีหุ้น S&P 500

ดัชนี S&P 500 – Top 30

Ticker 

Sector 

Apple Inc.  AAPL  Technology 
Microsoft Corporation  MSFT  Technology 
Amazon.com Inc.  AMZN  Technology 
Facebook Inc. Class A  FB  Technology 
Alphabet Inc. Class A  GOOGL  Technology 
Alphabet Inc. Class C  GOOG  Technology 
Tesla Inc  TSLA  Consumer Discretionary 
NVIDIA Corporation  NVDA  Technology 
Berkshire Hathaway Inc. Class B  BRK.B  Financials 
JPMorgan Chase & Co.  JPM  Financials 
Johnson & Johnson  JNJ  Healthcare 
UnitedHealth Group Incorporated  UNH  Healthcare 
Visa Inc. Class A  V  Financials 
Home Depot Inc.  HD  Consumer Discretionary 
Procter & Gamble Company  PG  Consumer Staples 
PayPal Holdings Inc  PYPL  Technology 
Walt Disney Company  DIS  Communication Services 
Adobe Inc.  ADBE  Technology 
Mastercard Incorporated Class A  MA  Financials 
Bank of America Corp  BAC  Financials 
Comcast Corporation Class A  CMCSA  Communication Services 
Netflix Inc.  NFLX  Technology 
salesforce.com inc.  CRM  Technology 
Pfizer Inc.  PFE  Healthcare 
Thermo Fisher Scientific Inc.  TMO  Healthcare 
Cisco Systems Inc.  CSCO  Technology 
Exxon Mobil Corporation  XOM  Energy 
Verizon Communications Inc.  VZ  Communication Services 
Abbott Laboratories  ABT  Healthcare 
Intel Corporation  INTL  Technology 

รายชื่อบริษัทใน S&P นี้แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของดัชนี ซึ่งเหมาะแก่การลงทุนในระยะยาว

TH index trading 

 ควรที่จะเทรด S&P 500 หรือไม่? สิ่งที่ควรนึกถึงก่อนลงทุน

S&P 500 มีจุดเด่นที่ทำให้เหมาะสมแก่นักลงทุนทุกประเภท โดยแบ่งออกได้ดังนี้:

  • ความผันผวน:ความผันผวนรายวันของดัชนี S&P 500 ทำให้นักเทรดรายวันสามารถสร้างโอกาสได้มากมายในแต่ละวัน
  • ความหลากหลาย:ถือเป็นดัชนีที่มีความหลากหลายมากที่สุดในโลก โดยประกอบไปด้วย 500 บริษัทในดัชนี ทำให้สามารถรับมือกับวิกฤตต่างๆได้ดี
  • การปันผล:คุณจะได้รับเงินผลจากการลงทุนใน SP500 เมื่อคุณถือ S&P 500 ETF
  • เลเวอเรจ:โบรคเกอร์ออนไลน์ส่วนมาก รวมถึง ZFX นั้นให้บริการเลเวอเรจที่สูงแก่นักเทรดในการซื้อขายดัชนีหุ้น S&P 500 แบบ CFDs ซึ่งเป็นข้อดีที่สำคัญสำหรับนักเทรดรายวัน
  • สามารถทำการขายได้: เมื่อทำการเทรด S&P แบบ CFDs นั้นสามารถทำการลงทุนในขาลงของ S&P 500 ได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกับการลงทุนในขาขึ้นของ S&P 500 ดังนั้นจึงสามารถทำกำไรไม่ว่าจะเป็นขาขึ้นหรือขาลงของ S&P

ฉันจะทำการเทรด S&P500 ได้อย่างไร?

พร้อมสำหรับการลงทุนใน SP500 แล้วใช่หรือไม่? สามารถเริ่มการเทรดได้กับโบรคเกอร์ชั้นนำอย่าง ZFX

ZFX, โบรคเกอร์ MT4 ชั้นนำระดับโลก

ZFX ก่อตั้งเมื่อปี 2018 และเป็นโบรคเกอร์ที่ปลอดภัยและได้รับการกำกับโดย FCA โดยให้บริการผ่านแพลตฟอร์มเทรด MT4 ที่ได้รับความนิยมสูง ซึ่งคุณสามารถลงทุนในสินค้าที่หลากหลาย ตั้งแต่หุ้นชั้นนำจนถึงฟอเร็กซ์และดัชนี

ทำการเทรดดัชนี S&P อย่าง่ายได้อย่างไร?

ซื้อดัชนี S&P 500 กับโบรคเกอร์ ZFX อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โดยขั้นตอนการเปิดบัญชีจะทำผ่านระบบออนไลน์ทั้งหมด และ ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที โดยมีขั้นตอนดังนี้

  1.  สมัครบัญชีกับ ZFX
  2.  ฝากเงินเข้าสู่บัญชี
  3.  ยืนยันข้อมูลบัญชี ZFX
  4. เทรดดัชนี S&P 500

1 – สมัครบัญชีกับ ZFX

เริ่มต้นที่การเข้าสู่เว็บไซต์ ZFX และคลิก “เปิดบัญชี” จากนั้นจะต้องทำการกรอกข้อมูลส่วนตามฟอร์มการสมัคร ซึ่งจะมีการยืนยันผ่าน SMS

Trade Exxon Mobil stock price - Step 1

จากนั้นคลิก “ถัดไป” และทาง ZFX จะแสดงข้อมูลผู้ใช้และรหัสผ่าน MT4 และให้คุณดาวน์โหลดแพลตฟอร์ม

2 – ฝากเงินเข้าสู่บัญชี

เพื่อที่จะฝากเงินแล้ว คุณจะต้องคลิกที่ปุ่ม “ฝากเงิน” บนหน้าจอที่แสดงขึ้นมาหลังทำการสมัคร คุณจะต้องเลือกช่องทางการฝากเงิน เช่น Mastercard:

ราคาหุ้น Visa

ในหน้าจอนี้ คุณจะต้องกรอกจำนวนเงินและคลิกปุ่ม “ยืนยันการฝาก” และจากนั้นคุณจะต้องกรอกข้อมูลบัตรเครดิตก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนยืนยันการชำระเงินขั้นสุดท้าย

3 – ยืนยันข้อมูลบัญชี

ท้ายที่สุดนั้น คุณจะต้องทำการยืนยันบัญชีโดยส่งเอกสารที่รองรับ

ราคาหุ้น Intel

คุณจะต้องทำการอัพโหลดเอกสารมาที่เว็บไซต์ ZFX โดยตรงตามภาพด้านบน

4 – ซื้อดัชนี S&P 500

คุณสามารถทำลง S&P 500 ผ่านแพลตฟอร์ม ZFX MT4 ได้ทันที เพียงแค่เข้าสู่ระบบใน Metatrader 4 และทำตามคำแนะนำ จากนั้นเลือก SP500 และลงทุนด้วยจำนวนเงินที่ต้องการ

 คำแนะนำและสิ่งที่ควรทราบก่อนทำการลงทุนใน S&P 500

ในส่วนนี้เราจะนำเสนอข้อมูลที่สำคัญและคำแนะนำที่จะช่วยให้คุณสามารถเทรด S&P ได้อย่างถูกต้องและราบรื่น

  • S&P 500 เริ่มเทรดเวลา 9:30 am และปิดเวลา 4:00 pm ตามเวลาท้องถื่น ในวันจันทร์ถึงศุกร์
  • อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเทรด S&P 500 นอกเวลาการเทรดหลักด้วย S&P 500 ฟิวเจอร์ส และ SP500 CFDs
  • ดัชนีหุ้นเป็นรูปแบบการเทรดที่ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคได้อย่างดีเยี่ยม ดังนั้นการวิเคราะห์กราฟจึงเป็นสิ่งสำคัญในการเทรด S&P 500
  • การติดตามปฎิทินเศรษฐกิจ โดยเฉพาะข้อมูลสถิติของสหรัฐเป็นสิ่งสำคัญในการวิเคราะห์ S&P 500 และคาดการณ์ความผันผวนได้อย่างถูกต้อง
  • คุณสามารถเทรด S and P 500 โดยไม่มีความเสี่ยงด้วยบัญชีทดลองของโบรคเกอร์ ZFX ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการฝึกฝนก่อนที่จะเริ่มต้นทำการเทรดด้วยเงินจริง
  • เป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องคอยตรวจสอบราคา S&P 500 ในปัจจุบัน แม้ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนในระยะยาวก็ตาม

อนาคต, การพยากรณ์ และ การคาดการณ์ของหุ้น S&P 500

มาดูกันที่อนาคตของ S&P 500 โดยมุมมองการคาดการณ์ในหลายๆด้าน

คำแนะนำและการคาดการณ์ S&P 500 จากนักวิเคราะห์

ผลสำรวจของ CNBC จากการสอบถามธนาคารสำคัญ 15 แห่งนั้น ดัชนีหุ้น S&P ถูกคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นไปที่ระดับราคาเฉลี่ย 4,600 จุดในช่วงสิ้นปี 2021 และ สำหรับปี 2022 นั้น ธนาคารต่างๆยังคาดการณ์ในเชิงบวกมากกว่าเดิม เช่น UBS คาดการณ์ถึงราคาสูงสุดใหม่ของ S&P500 ที่ 5,000 จุด เช่นเดียวกับ Credit Suisse

อีกวิธีหนึ่งที่สามารถวิเคราะห์ความเห็นจากนักวิเคราะห์ต่อ S&P 500 คือการดูที่คำแนะนำต่อหุ้นที่มีน้ำหนักมากที่สุดในดัชนี คือ Apple, Microsoft และ Amazon

  • สำหรับ Apple นั้น นักวิเคราะห์ 19 จาก 25 รายแนะนำให้ทำการซื้อ และ อีก 6 คนแนะนำให้ทำการรอ โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ย คือ $170 หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 16%
  • หุ้น Microsoft ถูกมองในทิศทางบวกจากนักวิเคราะห์มืออาชีพเช่นเดียวกัน โดยนักวิเคราะห์ทั้ง 23 รายที่ติดตามหุ้นแนะนำให้ทำการซื้อ โดยเป้าหมายเฉลี่ย +12%
  • หุ้น Amazon ก็ได้รับความเห็นเป็นเอกฉัณฑ์เช่นเดียวกัน โดยนักวิเคราะห์ทั้ง 31 รายแนะนำให้ทำการซื้อโดยมีเป้าหมายราคาเฉลี่ยคือ $4,220 สูงขึ้น 25% จากราคาปัจจุบัน.

การวิเคราะห์จากปัจจัยพื้นฐานของ SP500

แม้ว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะเริ่มกลับสู่สภาวะปกติหลังจากการเผยแพร่วัคซีนป้องกันโรคระบาด แต่ยังคงห่างไกลจากสถานการณ์ก่อนหน้าโควิด-19

อย่างไรก็ตามตัวบ่งชี้ส่วนมากยังคงชี้ไปในทิศทางบวก และในช่วงที่เหลือของปี 2021 และ ปี 2022 อาจจะได้เห็นการฟื้นตัวอย่างชัดเจนของเศรษฐกิจสหรัฐและทั่วโลก

ในช่วงเวลาอันใกล้นี้เป็นที่น่าสนใจว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ผลตอบแทนต่อหุ้น (EPS) ว่าจะเพิ่มขึ้นกว่า 27% ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2021 สำหรับบริษัทใน S&P 500 ดังนั้นถือเป็นปัจจัยพื้นฐานอย่างหนึ่งสำหรับขาขึ้นของราคาดัชนี S&P 500

การวิเคราะห์ทางเทคนิคของ S&P 500

เห็นได้อย่างชัดเจนในกราฟรายสัปดาห์ของ S&P 500 ด้านล่างนี้ว่าแนวโน้มของดัชนี SP500 ปัจจุบันอยู่ในช่วงขาขึ้น

โดยดัชนีได้แสดงให้เห็นถึงขาลงในระยะสั้นหลังจากขึ้นสู่จุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ แต่การปรับตัวครั้งนี้มีแนวโน้มว่าจะเป็นแค่การชะลอตัวเพื่อรับการปรับตัวขึ้นครั้งใหม่ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสในการซื้อ และยิ่งกว่านั้น เราสามารถคาดการณ์ได้ว่าแนวโน้มขาขึ้นนี้จะยังคงอยู่ตราบใดที่ราคา S&P ยังรักษาระดับเหนือว่า 4100 จุด

สรุปภาพรวม: ดัชนี S&P 500 – S&P เป็นการลงทุนที่ดีในตอนนี้หรือไม่?

S&P 500 เป็นการลงทุนที่แทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐที่เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดของโลกและเป็นการเทรดที่ได้รับความนิยมมากสำหรับนักเทรดรายวันจากสภาพคล่องที่สูง, แนวโน้มที่ชัดเจน และ ความผันผวนที่เหมาะสม แต่จากประวัติผลตอบแทนของดัชนียังแสดงให้เห็นว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวอีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น อนาคตของดัชนียังคงสดใสอย่างมาก จากการกลับเข้าสู่สภาวะปกติหลังโรคระบาดจะส่งผลดีต่อดัชนีอย่างมาก และ แนวโน้มในระยะยาวของ S&P ยังคงอยู่ในสถานะขาขึ้นอย่างชัดเจนด้วยราคาสูงสุดที่ผ่านมาหากคุณต้องการเทรด S&P 500 ในตอนนี้ โบรคเกอร ZFX เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด โดยให้บริการผ่าน MT4 และมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำ รวมถึงข้อดีอื่นๆอีกมาก

ดูรายชื่อดัชนีที่ ZFX มีให้บริการ ได้ที่นี่

ดัชนี Dow 30คืออะไร? อ่านที่นี่

TH index trading

ความรู้คือพลัง
ไม่พลาดโอกาสในการเรียนรู้และเติบโตในฐานะเทรดเดอร์ กดเข้าร่วมรับอีเมลจาก ZFX Academy เพื่อเป็นคนแรกที่ได้รู้เกี่ยวกับการจัดสัมมนา บทความ หรือคำแนะนำต่างๆของเรา
ติดต่อเรา