ราคาหุ้นเทสลา – กราฟราคา TSLA พร้อมประวัติความเป็นมาและการคาดการณ์
Tesla (เทสลา) เป็นหนึ่งในหุ้นของบริษัทที่มีความหลากหลายของผู้ลงทุนมากที่สุด โดยมีนักลงทุนจากทั้งนักเก็งกำไรและนักลงทุน เป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้ราคาหุ้นเทสลาเพิ่มขึ้นอย่างมาก และยังเป็นผลมาจากแผนการในอนาคตอันใหญ่โตของเทสลาอีกเช่นกัน ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่เครือข่ายการชาร์จ หรือที่เก็บแบตเตอรี่ในบ้าน และแผงโซลาร์เซลล์เท่านั้น แต่ยังมีแผนการอื่นๆอีก บทความนี้จะกล่าวถึงทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับราคาหุ้นของเทสลา คุณจะพบทุกสิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อหุ้นของบริษัทนี้
ราคาหุ้น Tesla – กราฟราคาหุ้นเทสลาวันนี้
ประวัติราคาหุ้นเทสลา
เมื่อราคาหุ้นเทสลาพุ่งขึ้น เราจะพาคุณไปพิจารณาประวัติศาสตร์บางส่วนและองค์ประกอบบางอย่างที่อาจมีส่วนทำให้ราคาหุ้นเทสลาเพิ่มขึ้น
แนวโน้มราคาหุ้นเทสลาในอดีต
การเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ของบริษัทเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2010 ในราคา 17 ดอลลาร์ต่อหุ้น และราคาพุ่งขึ้นกว่า 40% ในวันซื้อขายวันแรก จนราคาขึ้นไปปิดที่เกือบ 24 ดอลลาร์ นี่แสดงให้เห็นถึงอนาคตอันสดใสของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าว่าจะเกิดขึ้นจริงในสมัยนั้น แต่หลังจากนั้นในเดือนมีนาคม 2011 ราคาหุ้นของเทสลาก็ร่วงลงอย่างรุนแรง โดยซื้อขายที่ระดับราคาต่ำกว่า 5 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นราคาหุ้นที่ต่ำที่สุดของเทสลา นับแต่นั้นมา หุ้น Tesla ก็มีเรื่องราวความสำเร็จค่อนข้างมาก จนราคาหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึงมูลค่าปัจจุบันที่ประมาณ 780 ดอลลาร์ บวกกับความจริงที่ว่า Tesla ทำการแบ่งหุ้นแบบ 5 ต่อ 1 เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2020 แนวโน้มกระทิง(ขาขึ้น) ที่ใหญ่ที่สุดสำหรับ Tesla (จนถึงตอนนี้) เริ่มต้นขึ้นหลังจากการระบาดใหญ่ของ Covid-19 ในปี 2020 โดยหุ้นพุ่งขึ้น 50% ในเดือนเมษายน 2020 จากนั้นจนถึงเดือนกันยายน 2020 หุ้นของ Tesla เพิ่มขึ้น 370% และแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 900 ดอลลาร์ ในเดือนมกราคม 2021 แต่หลังจากนั้นราคาร่วงลงทำให้สูญเสียมูลค่า 14.9% ในเดือนกุมภาพันธ์ 2021
ราคาหลังการแตกหุ้นของเทสลา
จนถึงตอนนี้เทสลามีการแตกหุ้นเพียงครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ แล้วทำไมพวกเขาถึงเลือกที่จะแตกหุ้น? และราคาหุ้นเทสลาก่อนการแตกคือเท่าไหร่? ในเดือนสิงหาคม 2020 เทสลาประกาศแตกหุ้นออกเป็น 5 ต่อ 1 หุ้น ในรูปแบบของหุ้นปันผล การแตกหุ้นเกิดขึ้นเมื่อบริษัทต้องการเพิ่มจำนวนปริมาณหุ้นสามัญของบริษัท โดยแบ่งหนึ่งหุ้นออกเป็นหุ้นย่อยหลายๆหุ้น ตัวอย่างเช่น การแบ่งหุ้น 3 ต่อ 1 หุ้น แปลว่า หุ้นราคา 300 ดอลลาร์หนึ่งหุ้นจะกลายเป็นหุ้น 100 ดอลลาร์สามหุ้น และผู้ถือหุ้นทั้งหมดจะได้รับหุ้นพิเศษ 2 หุ้นสำหรับแต่ละหุ้นที่ตนมีอยู่แล้ว ทำไมบริษัทถึงเลือกแตกหุ้น? ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นเมื่อราคาหุ้นของบริษัทสูงเกินไป การแตกหุ้นทำให้ราคาต่อหุ้นลดลง ซึ่งจะทำให้หุ้นน่าสนใจยิ่งขึ้นและดึงดูดนักลงทุนรายย่อยใหม่ๆมากขึ้นซึ่งอาจเป็นนักลงทุนที่ไม่เคยซื้อหุ้น Tesla มาก่อน ในกรณีของเทสลา นักลงทุนแต่ละรายจะได้รับหุ้นเพิ่ม 4 หุ้นต่อหนึ่งหุ้นที่พวกเขามี ในวันแรกของการแตกหุ้น หุ้นของเทสลาพุ่งขึ้นทันที 12.6% และอยู่ในกลุ่มที่มีผลประกอบการดีที่สุดทั่วโลก โดยการพุ่งขึ้นของราคาหลังจากแตกหุ้นนี้สาเหตุส่วนใหญ่มาจากนักเทรดรายย่อยจำนวนมากซื้อหุ้นของบริษัทเนื่องจากราคาหุ้นถูกลง
การคาดการณ์ราคาหุ้นของ Tesla
ตอนนี้เราลองมาดูการคาดการณ์ ราคาหุ้น Tesla ผ่านการคาดการณ์ราคาเป้าหมายจากนักวิเคราะห์
นักวิเคราะห์คาดการณ์ราคาหุ้นเทสลา
ตามรายงานของ IBD Stock screener หุ้นของ Tesla ได้คะแนนจากการจัดอันดับโดยรวมที่ B+ การจัดอันดับนี้จะวิเคราะห์ปริมาณและราคาที่เปลี่ยนแปลงของหุ้นในช่วง 13 สัปดาห์ของการซื้อขาย ราคาหุ้นของเทสลายังมีคะแนนความแข็งแกร่งที่ 86 จาก 99 คะแนนนี้บ่งบอกว่าหุ้นมีประสิทธิภาพดีกว่าหุ้นทั้งหมด 86% ในจากการคัดกรองหุ้นโดย IBD ในปีที่แล้ว IBD Composite Rating อยู่ที่ 97 จาก 99 ตามหลักการทั่วไป เมื่อนักลงทุนจะเลือกหุ้นที่มีการเติบโตที่มีศักยภาพสูงสุด นักลงทุนจะเลือกหุ้นที่มีเรตติ้ง IBD สูงกว่า 90และจะยิ่งดียิ่งขึ้นไปอีกถ้าคะแนนเกิน 95 หรือสูงกว่า โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นของตลาดขาขึ้น
เป้าหมายราคาหุ้นของเทสลา
กราฟราคาเทสลาบอกเราว่าราคากำลังเพิ่มขึ้นอย่างเงียบ ๆ อีกครั้ง และราคาหุ้นเทสลาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 1,000 ดอลลาร์ ราคาหุ้นของ Tesla ต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 7.3% ในปี 2021 ซึ่งยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ที่เพิ่มขึ้น 14% และ S&P 500 ที่เพิ่มขึ้น 19% แต่หลังจากราคาไซด์เวย์มาหลายเดือน หุ้นของเทสลาก็เริ่มปรับตัวสูงขึ้นและเพิ่มขึ้นมากกว่า 21% ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม 2021 จริงๆแล้ว ด้วยราคาหุ้นของ Tesla ในวันนี้ที่มากกว่า $750 นั้นอาจพร้อมที่จะฝ่าแนวต้านเพื่อมีราคาสูงขึ้นแล้ว แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังมีแรงขายที่ทำให้หุ้นของเทสลาไม่สามารถขึ้นได้ และทำให้ความหวังที่หุ้นเทสลาจะแสดงผลลัพธ์ที่ดีในปี 2021 กำลังเริ่มสลายไป
การคาดการณ์ราคาหุ้นของเทสลาใน 1, 2, 5 และ 10 ปี
- ถ้าหากการคาดการณ์ราคาหุ้นของ Tesla ถูกต้อง ดังนั้นแนวโน้มขาขึ้นน่าจะเกิดขึ้นในปี 2022 Wallet Investor คาดการณ์ราคาหุ้นของ Tesla ในปีหน้าว่าราคาเปิดในเดือนมกราคม 2022 จะอยู่ที่ 811 ดอลลาร์ ในขณะที่ราคาปิดในเดือนธันวาคม 2022 อยู่ที่ 1104 ดอลลาร์
- แนวโน้มขาขึ้นนี้คาดว่าจะดำเนินต่อไปจนถึงปี 2023 ตามการคาดการณ์ของสำนักงานพยากรณ์เศรษฐกิจ โดยราคาเปิดเริ่มต้นปี 2023 ที่ประมาณ 1,110 ดอลลาร์ และคาดว่าราคาหุ้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,400 ดอลลาร์เมื่อจบสิ้นปี
- สำหรับการคาดการณ์ราคาหุ้นของเทสลาในระยะยาว ทศวรรษหน้าธุรกิจของเทสลาจะเติบโตตอย่างมีนัยสำคัญได้อย่างมาก Wallet Investor คาดการณ์ว่าราคาหุ้นควรมากกว่า $2,000 ภายในสิ้นปี 2025 หลังจากราคาหุ้นเปิดปีที่ $1,711 และราคาปิดที่คาดการณ์ว่าจะเป็น $2,010 เมื่อสิ้นปี 2025
- การคาดการณ์ราคาหุ้นเทสลาระยะยาวที่สุด นักลงทุนชื่อ รอน บารอน เชื่อว่าเทสลาน่าจะมีมูลค่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าการคาดการณ์ระยะยาวเหล่านี้เป็นค่าประมาณอย่างยิ่งและถือเป็นการเก็งกำไร ไม่ควรถือว่าเป็นคำแนะนำการลงทุนที่เชื่อถือได้
วันนี้ฉันจะซื้อหุ้น TSLA ได้อย่างไร?
หากแนวโน้มราคาหุ้นของ Tesla ดูน่าตื่นเต้นและทำให้คุณอยากจะซื้อขายหุ้น TSLA สิ่งที่คุณต้องทำคือเลือกใช้โบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้ เช่น ZFX ซึ่ง ZFX เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับการควบคุมซึ่งมีข้อดีหลายประการ เช่น มีแพลตฟอร์ม MT4 และค่าธรรมเนียมที่ต่ำ นอกจากนี้ยังมีแหล่งข้อมูลด้านการเทรดเพื่อช่วยให้คุณเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ
การลงทุนในหุ้นเทสลา:คู่มือ
ตอนนี้เรามาดูคำแนะนำทีละขั้นตอนในการลงทะเบียนกับ ZFX และลงทุนใน TSLA
ขั้นตอนที่ 1: ลงทะเบียนกับ ZFX
บนหน้าแรกของ ZFX ค้นหาและคลิกปุ่ม “เปิดบัญชี” คุณยังสามารถเลือก “ลองบัญชีเดโม่” หากคุณต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุนในตลาดหุ้นโดยไม่ต้องใช้เงินจริง
ในหน้านี้ คุณจะเห็นแบบฟอร์มที่คุณต้องกรอกข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ ป้อนข้อมูลแล้วกดปุ่มถัดไป
ซึ่งจะนำคุณไปยังหน้าดังรูปข้างต้น โดยที่ ZFX จะกำหนดให้คุณต้องเลือกประเภทบัญชีที่คุณต้องการเปิด จากนั้น ทำเครื่องหมายที่ช่องข้อกำหนด & เงื่อนไข แล้วคลิก “สมัครทันที”
ขั้นตอนที่ 2: ทำการฝากเงินครั้งแรกของคุณ
เมื่อขั้นตอนการเปิดบัญชีเสร็จสิ้น คุณจะต้องโอนเงินฝากขั้นต่ำไปยังบัญชีที่เปิดใหม่ของคุณ โดยโอนจากบัญชีธนาคารของคุณ เมื่อเสร็จสิ้นแล้วจึงจะสามารถเริ่มลงทุนได้
ขั้นตอนที่ 3: การยืนยันบัญชี
ในส่วนหนึ่งของกระบวนการ Know Your Customer (KYC) นักลงทุนที่ลงทะเบียนใหม่ใน ZFX จะต้องจัดเตรียมเอกสารประกอบการยืนยันตัวตน
คุณต้องแสดงเอกสารการยืนยันที่อยู่ รวมถึงหลักฐานยืนยันตัวตน เช่น หนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุหรือบัตรประจำตัวประชาชน โดยเป็นเอกสารที่มีรูปถ่ายที่ออกอย่างเป็นทางการจากราชการ
ขั้นตอนที่ 4: ลงทุนในหุ้นTesla ในราคาปัจจุบัน
ขั้นตอนสุดท้าย คือการดาวน์โหลดโปรแกรม MT4 และเข้าสู่ระบบโดยใช้รายละเอียดที่ส่งไปยังอีเมลของคุณ ค้นหาหุ้นภายใต้สัญลักษณ์ TSLA และลงทุนในราคาหุ้นปัจจุบันของ Tesla
ควรซื้อหรือไม่ซื้อหุ้นTesla?
ในปี 2020 เทสลาสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการแซงหน้า Toyota เพื่อก้าวขึ้นเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 ราคาต่อหุ้นของ Tesla พุ่งสูงขึ้นถึง 920% ทำให้การประเมินมูลค่าของบริษัทสูงขึ้นถึง 9 เท่า ในมุมมองนี้ บริษัทมีมูลค่ามากเท่ากับบริษัทรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุด 9 แห่งทั่วโลกรวมกัน เพื่อช่วยให้คุณตัดสินได้ดีขึ้นว่าหุ้นเทสลาควรซื้อหรือไม่ ตอนนี้มาดูปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับราคาซึ่งมีส่วนช่วยเสริมความสำเร็จของเทสลา
1. การส่งมอบรถ
เทสลาส่งมอบรถยนต์ 241,300 คันในไตรมาสที่ 3 ของปี 2021 ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 232,000 คัน ปริมาณการส่งมอบรถยนต์ของบริษัทเติบโตขึ้น 73% จากปี 2020 และ 20% จากไตรมาสก่อน ตัวเลขการส่งมอบเหล่านี้ชี้ให้เห็นถึงความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่แข็งแกร่งสำหรับเทสลา นอกจากนี้ รายรับของเทสลายังเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าที่ 11.9 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2021 ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 11.5 พันล้านดอลลาร์ กำไรที่ปรับแล้วของ บริษัท ก็พุ่งขึ้น 230% เป็น 1.45 ดอลลาร์ต่อหุ้น
2. ดาบสองคม: การขาดแคลนชิป
ในขณะที่ภาคยานยนต์พึ่งพาการใช้ฮาร์ดแวร์ที่ซับซ้อนมากขึ้น การระบาดใหญ่ของโคโรนาไวรัสทำให้การส่งมอบและการผลิตรถยนต์ทั่วโลกหยุดชะงัก ส่งผลให้มีการขาดแคลนฮาร์ดแวร์ทางเทคนิคที่ซับซ้อนสำหรับยานพาหนะจำนวนมาก รวมถึงไมโครชิป ผู้ผลิตชิปหลายรายไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปิดโรงงานเนื่องจากการหยุดผลิตรถยนต์ อย่างไรก็ตาม แม้จะขาดแคลนไมโครชิปนี้ แต่เทสลายังคงมียอดขายเกิน 1 พันล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2021 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่บริษัทบรรลุความสำเร็จครั้งสำคัญดังกล่าวในประวัติศาสตร์
3. เทสลาเป็นหุ้นที่มีสตอรี่
เทสลาถูกขนานนามว่าเป็น “หุ้นสตอรี่” Story Stock คือหุ้นที่มูลค่าถูกกำหนดโดยการรายงานข่าวที่ดีและโอกาสในอนาคต มากกว่าที่จะพิจารณาจากรายได้สุทธิ สินทรัพย์ ฯลฯ บ่อยครั้งสำหรับหุ้นประเภทนี้ มูลค่าที่แท้จริงจะไม่สะท้อนราคาของหุ้นนั้นๆ เนื่องจากราคายังคงสูงขึ้นได้แม้ว่าองค์ประกอบพื้นฐานจะไม่สอดคล้องก็ตาม ตัวอย่างเช่น ในปี 2017 เทสลาประกาศเปิดตัวรถซีดานรุ่น 3 ส่งผลตามมาด้วยการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของราคาหุ้นของเทสลา และมูลค่าตามราคาตลาดของเทสลานั้นแซงหน้าจีเอ็มและฟอร์ดในช่วงสั้นๆ ในที่นี้ เราจะเห็นว่าการขึ้นของราคาไม่ได้เกิดจากเหตุการณ์จริง แต่เป็นเหตุการณ์ในอนาคตที่คาดการณ์ไว้
4. การเปลี่ยนแปลงทั่วโลกสู่พลังงานที่ยั่งยืน
โลกของเราตระหนักถึงพลังงานสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หนึ่งในทางออกนั้นคือการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า นักลงทุนและผู้เทรดต่างตั้งความหวังไว้สูงกับเทสลาสำหรับบทบาทการเป็นบริษัทในระดับแนวหน้าของการประดิษฐ์ทางเทคโนโลยีที่ยั่งยืน แม้แต่นักวิจารณ์ก็ยังยอมรับว่า Tesla เป็นผู้นำด้านเครือข่ายการชาร์จพลังงานและ EV และมั่นใจว่าจะได้รับประโยชน์จากราคาหุ้นและยอดขายในขณะที่โลกกำลังเปลี่ยนไปสู่พลังงานสีเขียว สิ่งเดียวที่สามารถขวางทางความสำเร็จของเทสลาได้คือการเกิดขึ้นของคู่แข่งที่ถูกกฎหมายพร้อมข้อได้เปรียบที่พิสูจน์ได้
5. เครดิตการขายรถยนต์ไฟฟ้าของเทสลา
ตามรายงานผลประกอบการของ Tesla ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 รายรับของบริษัทแตะ 1.1 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสนั้น โดยประมาณ 345 ล้านดอลลาร์มาจากรายได้การขายเครดิตให้กับบริษัทรถยนต์อื่นๆ แต่สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร ในแคลิฟอร์เนียและอีก 10 รัฐ ผู้ผลิตรถยนต์ทุกรายที่ต้องการขายผลิตภัณฑ์ของตนในรัฐจะต้องขายไฟฟ้าไฮบริด ไฟฟ้า หรือ ZEV อื่นๆ (ยานพาหนะที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์) จำนวนหนึ่ง ผู้ผลิตรถยนต์ที่ไม่สามารถขายรถยนต์จำนวนมากได้ หรือยังไม่ได้ขายรถประเภทนี้ จะซื้อเครดิตจากบริษัทที่ปฏิบัติตามแล้ว เนื่องจาก Tesla ขาย ZEVS เท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องเก็บเครดิตทั้งหมดที่มี ดังนั้นจึงนำเครดิตที่ได้รับมาฟรีๆมาขายให้กับบริษัทอื่นๆก่อนที่เครดิตเหล่านั้นจะหมดอายุ
สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับราคาหุ้นของเทสลาก่อนตัดสินใจลงทุน
ไม่จำเป็นต้องพูดให้มากนัก เราเชื่อว่าคุณย่อมรู้ว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ดังนั้น ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณจะต้องติดตามและเรียนรู้เกี่ยวกับราคาหุ้นของ Tesla ก่อนตัดสินใจลงทุน
1. ปัจจัยพื้นฐานของบริษัท
ก่อนซื้อหุ้นของเทสลา ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณรู้ว่าตัวเองกำลังจะลงทุนในอะไร จำไว้ว่า เมื่อคุณซื้อหุ้น คุณจะได้รับการเป็นเจ้าของธุรกิจในส่วนเล็กๆ ด้วยเหตุนี้ คุณจึงควรวิเคราะห์เอกสารของบริษัทอย่างรอบคอบ รวมถึงการจัดการ การแข่งขัน งบกำไรขาดทุน และงบดุล
2. การเกิดขึ้นของการแข่งขันครั้งใหม่
ไม่ใช่แค่ “บิ๊กทรี” ของดีทรอยต์ที่เทสลาต้องกังวล บริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ จำนวนมากกำลังกระโดดเข้ามาในสนามนี้และสร้างการแข่งขันที่มากยิ่งขึ้น ดังนั้นอย่าลืมนึกถึงสิ่งเหล่านี้ก่อนตัดสินใจลงทุน
3. ดีมานด์จากภูมิภาคสำคัญอื่นๆ เช่น จีน
ยอดขายส่วนใหญ่ของเทสลาเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา แต่รายรับจากประเทศต่างๆ เช่น จีน มีบทบาทสำคัญในการกำหนดผลลัพธ์ของบริษัทมากขึ้น ดังนั้น ให้ติดตามอุปสรรคด้านกฎระเบียบหรือการเมืองใดๆ ที่บังคับใช้ในภูมิภาคนี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อยอดขายของเทสลา
4. การสอบสวนของ NHTSA
อุบัติเหตุร้ายแรง 10 ครั้งที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์เทสลาเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2559 และทางการกำลังตรวจสอบว่าระบบขับขี่อัตโนมัติของเทสลา มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เหล่านี้หรือไม่ ดังนั้นในวันข้างหน้าโปรดทราบว่าผลการตรวจสอบนี้อาจส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นของบริษัท
บทสรุป: เราสามารถคาดหวังอะไรจาก ราคาหุ้น Tesla ได้บ้าง?
เทสลาได้กลายเป็นบริษัทรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและกำลังนั่งอยู่บนจุดสูงสุดของอุตสาหกรรมอย่างสบายใจในขณะนี้ หากทุกอย่างยังคงดำเนินไปในลักษณะนี้ สิ่งนั้นก็ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงในเร็วๆ นี้ หากคุณรู้สึกว่าพร้อมที่จะลงทุนในหุ้นของ Tesla ปัจจุบัน ZFX สามารถช่วยให้คุณดำเนินการได้ด้วยขั้นตอนง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอน โบรกเกอร์ ZFX ได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวดและมอบสิทธิประโยชน์มากมายให้กับลูกค้า รวมถึงค่าธรรมเนียมที่ต่ำ มีแพลตฟอร์ม MT4 และมีสินทรัพย์ที่หลากหลายให้ลงทุน