วิธีซื้อหุ้น Verizon ตอนนี้ พร้อมการคาดการณ์ทิศทางราคา
Verizon Communications, Inc. เป็นบริษัทโทรคมนาคมที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีลูกค้าที่ใช้บริการสูงถึง 90 ล้านคน อย่างไรก็ตามหุ้น Verizon มีราคาที่ต่ำกว่า (underperform) ตลาดในวงกว้าง เนื่องจากราคาหุ้นลดลงเล็กน้อยในปีที่ผ่านมา
ด้วยสาเหตุทึ่ราคาหุ้นตกลงใกล้ถึงระดับต่ำสุดในรอบปี ตอนนี้จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมแก่นักลงทุนที่จะลงทุนในหุ้นตัวนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่า หุ้นตัวนี้จะให้ผลตอบแทนสูงขึ้นถึง 10% ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และหุ้นตัวนี้จ่ายเงินปันผลที่สูงและมีความสม่ำเสมอจึงทำให้หุ้นตัวนี้เป็นที่ชื่นชอบในกลุ่มของนักลงทุนที่เน้นการลงทุนเพื่อให้มี passive income หรือ รายได้จากปันผลของหุ้นเป็นอย่างมาก
ภาพรวมของ Verizon
Verizon Communications Inc. (NYSE, Nasdaq: VZ) เป็นหนึ่งในบริษัทโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงถึง 224.52 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือในอดีตรู้จักกันในชื่อ Bell Atlantic Corp. โดยบริษัทได้มีการควบรวมกิจการกับ GTE Corp. และได้เปลี่ยนชื่อเป็น Verizon Communications Inc. ในปีพ.ศ. 2543 ซึ่งการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท Bell Atlantic และ GTE มี มูลค่าธุรกรรมอยู่ที่ 52 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อมาบริษัทยังได้ทำการซื้อ AOL และ Yahoo! ในปีพ.ศ. 2558 และ 2560 ตามลำดับ จากนั้นได้ทำการควบรวมกิจการ และสร้างแบรนด์ขึ้นมาใหม่ที่ชื่อว่า Verizon Media
Verizon ให้บริการด้านการสื่อสาร broadband, wireless และ wireline แก่ลูกค้ารายบุคคล, กลุ่มธุรกิจ และรัฐบาล ทั่วโลก โดยบริษัทแบ่งส่วนการดำเนินงานออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน: ผู้บริโภคและกลุ่มธุรกิจ และด้วยบริษัทมีจำนวนลูกค้ามากกว่า 91 ล้านราย Verizon จึงถึอว่าเป็นเครือข่ายไร้สายที่น่าเชื่อถือที่สุดของอเมริกา มากไปกว่านั้นบริษัทยังถูกจัดอันดับให้อยู่อันดับที่ 20 ใน Forbes Global 2000 ของปี 2564 อีกด้วย
Verizon ให้บริการการเชื่อมต่อ broadband, wireline และ wireless ทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการแบบ 5G, 4G LTE, Fiber Optic และ Multi Edge Compute (MEC) ในฐานะที่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่เป็นอันดับสองในสหรัฐอเมริกา Verizon มีคอนเนคชั่นร้านค้าปลีกด้าน wireless ประมาณ 94.59 ล้านราย และ broadband 6.78 ล้านราย ณ วันที่ 30 เดือนมิถุนายน ปีพ.ศ. 2564 และที่น่าสนใจก็คือ 99% ของบริษัท Fortune 500 ใช้บริการของ Verizon
ราคาย้อนหลังของหุ้น Verizon
ณ สำนักงานใหญ่ที่เมืองนิวยอร์ค หุ้น Verizon ได้จดทะเบียนใน Nasdaq Global Select Market และตลาดหลักทรัพย์ New York Stock exchange ซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทที่ได้จดทะเบียน dual domestic listing ในสหรัฐอเมริกา และยังได้เป็นส่วนหนึ่งของ 30 บริษัทใน Dow Jones Industrial Average อีกด้วย
ราคาหุ้น Verizon ได้ปรับตัวสูงขึ้น 5.9% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แต่หลังจากคำนวณผลตอบแทนจากเงินปันผลร่วมด้วย หุ้น Verizon จะมีผลตอบแทนสูงถึง 38% นับตั้งแต่เดือนกันยายนปีพ.ศ. 2559
ด้วยค่าเบต้า 0.45 แสดงให้เห็นว่า หุ้นตัวนี้ค่อนข้างมีความเสถียร และบ่งบอกถึงความมั่นคงจากตลาดที่มีความผันผวนสูง ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงของการเกิดโรคระบาดได้ทำให้ตลาดหุ้นถึงจุดต่ำสุดในเดือนม แต่ราคาหุ้น VZ ปรับลดลงเพียง 8.83% ในช่วงเวลา 1 เดือนครึ่งที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับดัชนี benchmark S&P 500 ร่วงลงถึง 25.65% ในช่วงเวลาเดียวกัน
ราคาหุ้น Verizon ได้พุ่งสูงถึง $69.50 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดตลอดกาล เมื่อวันที่ 4 เดือนตุลาคม ปีพ.ศ. 2542 และ ราคาซื้อขาย ณ ปัจจุบันอยู่ต่ำกว่าจุดสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ หรือ $53.83 เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2563 ที่ 14.2%
ทำไมถึงต้องลงทุนในหุ้น Verizon ? ประเด็นที่เราควรพิจารณา
ก่อนที่คุณจะตัดสินใจว่า คุณควรจะซื้อหรือขายหุ้น Verizon คุณจะต้องโฟกัสไปที่โมเดลธุรกิจของบริษัท, แผนขยายธุรกิจ และอื่นๆ ซึ่งเราจะนำเอาประเด็นสำคัญของบริษัทมาให้คุณได้ลองพิจารณา
ผู้นำด้านการปรับใช้ 5G
ในปัจจุบัน Verizon ได้ให้บริการ 5G ทั่วสหรัฐอเมริกา และเป็นบริษัทแรกในโลกที่ให้บริการ 5G network edge computing ที่มี Advanced Web Services (AWS) wavelength โดยบริษัทพร้อมที่จะพลิกโฉมอุตสาหกรรม home broadband ผ่านแผนการให้บริการ “อินเตอร์เน็ตบ้านผ่านคลื่น 5G” ซึ่งจะให้บริการอินเทอร์เน็ตอย่างต่อเนื่องด้วยอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง มากไปกว่านั้น Verizon ยังเผยอีกว่า 5G Ultra-Wideband ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับปริมาณข้อมูลที่ใหญ่กว่าเครือข่าย 4G LTE networks ได้ถึง 100 เท่า พวกเขาต้องการที่จะขยายการบริการอินเตอร์เน็ตบ้านผ่าน 5G แก่ 15 ล้านครัวเรือนภายใน ปีพ.ศ. 2564 และ 50 ล้านหลังคาเรือน ภายในปีพ.ศ. 2568 นอกจากนั้นแล้ว พวกเขายังมีเป้าหมายที่จะขยายการบริการ Ultra-Wideband แก่คนทั่วไปจำนวน 10 ล้านคน ภายในไตรมาสแรกของปีพ.ศ. 2565
เมื่อไม่นานมานี้บริษัทได้เข้าไปเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ National Football League (NFL) เป็นระยะเวลา 10 ปี โดยที่ Verizon Communications ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพันธมิตรด้านเทคโนโลยี และ 5G network อย่างเป็นทางการของ NFL ในปัจจุบัน 5G Ultra Wideband ของ Verizon ได้ถูกนำไปใช้ที่สนามกีฬา NFL 25 แห่ง และศูนย์กีฬาและความบันเทิง 60 แห่งในสหรัฐอเมริกา
สถานะการเงินของ Verizon
ฉันควรซื้อหุ้น Verizon หรือไม่? อีกหนึ่งประเด็นที่คุณควรพิจารณาก็คือ ความแข็งแกร่งด้านการเงินของบริษัท โดย Verizon ได้นำเอาเทรนด์การทำงานแบบ remote working มาใช้ในองค์กรเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจในหนึ่งปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะกลับมาเปิดอีกครั้งอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่หุ้น Verizon ก็ยังเป็นหุ้นหนึ่งที่มีการเติบโตอย่างมั่นคง เมื่อพิจารณาในแง่ของฐานผู้ใช้งานและรายได้ของบริษัท ซึ่งรายได้จากการดำเนินงานทั้งหมดของบริษัทเพิ่มขึ้น 10.9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน (year-over-year) หรือเท่ากับ 33.76 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสที่สองของปีงบประมาณสิ้นสุดวันที่ 30 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2564 โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นรายได้จาก wireless และอุปกรณ์ ที่เพิ่มสูงขึ้น 47.6% มากไปกว่านั้นรายได้จากการดำเนินงานของบริษัทได้เพิ่มสูงขึ้นถึง 10.9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วในช่วงระยะเวลาเดียวกัน ซึ่งมีรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 8.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่รายได้สุทธิเพิ่มสูงขึ้น 22.9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน หรือเท่ากับ 5.95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
อย่างไรก็ตามกระแสเงินสดของบริษัทลดลงในครึ่งปีแรกของปี พ.ศ. 2564 เนื่องจากบริษัทได้นำเงินไปลงทุนเพื่อเร่งการเปิดตัวการให้บริการเครือข่าย 5G เป็นจำนวนมาก ซึ่งมาพร้อมกับภาษีที่สูงขึ้น ดังนั้นการลดลงของกระแสเงินสดของบริษัทจึงส่งผลต่อความน่าเชื่อถือทางเครดิต เพราะเป็นการแสดงให้เห็นว่า บริษัทมีหนี้สินเพื่อใช้ในการดำเนินงานและขยายกิจการ โดยบริษัทมี ระดับเงินสดพร้อมใช้งานอยู่ที่ 28.33 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ วันที่ 30 เดือนมิถุนายน ปีพ.ศ. 2564 ในขณะที่หนี้สินทั้งหมดคือ 180 พันล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เพราะฉะนั้นหุ้น Verizon จึงมีอัตราหนี้สินต่อกระแสเงินสดพร้อมใช้งานอยู่ที่ -5.10 และคาดว่า กระแสเงินสดที่อ่อนแออย่างต่อเนื่องจะทำให้ภาระหนี้สินและดอกเบี้ยของ Verizon จะยังคงเลวร้ายลง ในปัจจุบัน Verizon ได้ถูกจัดอับดับเครดิตอยู่ที่ Baa1 จาก Moody’s Investors Service, BBB+ จาก S&P Global Ratings และ A- จาก Fitch Ratings
หุ้น Verizon และภาระผูกพัน ESG
Verizon มุ่งมั่นที่จะทำให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปตามหลักความยั่งยืนในอีก 2-3 ทศวรรษข้างหน้า โดยบริษัทวางแผนที่จะดำเนินงานที่มีการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ภายในปีพ.ศ. 2578 มากไปกว่านั้นบริษัทยังมีเป้าหมายที่จะใช้พลังงานทดแทนอย่างน้อย 50% ของการใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด ภายในปีพ.ศ. 2568 และบริษัทได้ทำสัญญาระยะยาวเพื่อซื้อพลังงานในการผลิตพลังงานทดแทนที่ประมาณ 1.7GW จำนวน 13 ฉบับ
การริเริ่มและการลงทุนอย่างยั่งยืนของ Verizon ส่งผลให้การปล่อยคาร์บอนลดลง 53% จากปีพ.ศ. 2559 จนถึงปีพ.ศ. 2552 นอกจากนั้นแล้วการปล่อยคาร์บอนได้ลดลงจำนวน 12 ล้านตันในปีพ.ศ. 2563 ซึ่งสอดคล้องกับแผนการลดคาร์บอนของบริษัท และบริษัทยังมีแผนว่าจะลดจำนวนคาร์บอนลงถึง 20 ล้านตันภายในปีพ.ศ. 2573
บริษัทได้ออกตราสารหนี้สีเขียว (green bonds) ซึ่งแบ่งออกเป็นหลายคลาสด้วยกัน เพื่อสนับสนุนโครงการริเริ่มด้านพลังงานสะอาดในปีพ.ศ. 2562 และเป็นผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมรายแรกในสหรัฐฯ ที่ริเริ่มทำโครงการนี้ มากไปกว่านั้นบริษัทได้ระดมเงินทุนมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการออกพันธบัตรตราสารหนี้เพื่อลงทุนในพลังงานทดแทน โดยหุ้น Verizon มี ESG risk score อยู่ที่ 18 เป็นการแสดงให้เห็นว่า หุ้นตัวนี้มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน
คู่แข่งของ Verizon
Verizon ประสบปัญหาการแข่งขันที่รุนแรงจากบริษัทด้านโทรคมนาคมอย่าง AT&T Inc. (NYSE: T) และ T-Mobile US, Inc. (Nasdaq: TMUS) AT&T เป็นบริษัทด้านโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา และยังเป็นคู่แข่งที่ใหญ่ที่สุดของ VZ อีกด้วย พวกเขาเป็นบริษัทที่มีฐาน subscriber และผู้สนับสนุนเบื้องต้นมากกว่า VZ โดย AT&T เป็นกลุ่มหุ้นปันผลชั้นสูง ดังนั้น AT&T จึงได้รับความสนใจแก่ผู้ชื่นชอบปันผลเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นแล้วการให้บริการด้านการเชื่อมต่อและ subscription ของ AT&T มีราคาไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับแผนของ Verizon
ในขณะเดียวกัน T-Mobile ได้เข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของสหรัฐฯ โดยการควบรวมกิจการกับ Sprint Corporation เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดเนื่องมาจากการควบรวมกิจการ ทำให้ในปัจจุบันเครือข่าย 5G ของ T-MUS ได้เข้าถึงชาวอเมริกันกว่า 80% ในเมือง 8,300 แห่ง และบริษัทกำลังขยายการให้บริการอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะเข้าถึงชาวอเมริกันจำนวน 99% ขึ้นไป ภายใน 2-3 ปีข้างหน้านี้
ข้อมูลเงินปันผล Verizon
หุ้น Verizon ควรซื้อ หรือขาย? เพื่อตอบคำถามข้อนี้ คุณควรที่จะพิจารณาในเรื่องของการจ่ายเงินปันผลของบริษัท เนื่องจากVerizon เป็นบริษัทที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนักลงทุนเป็นอย่างมาก เพราะบริษัทมีการจ่ายชำระเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอมาเป็นเวลาหลายปี โดยบริษัทได้ทำการจ่ายเงินปันผลที่ $2.56 ในทุกๆ ไตรมาส มากไปกว่านั้นบริษัทยังได้เพิ่มเงินปันผลรายไตรมาสขึ้น 2% หรือเท่ากับ 64 เซ็นต์ เมื่อวันที่ 2 เดือนกันยายน (จ่ายเงินปันผลในวันที่ 1 เดือนธันวาคม) ซึ่งนั่นก็หมายความว่า บริษัทได้เพิ่มเงินปันผลรายไตรมาสหลังจากที่มีการจ่ายเงินปันอย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลา 15 ปี ถ้าบริษัทยังคงใช้วิธีการจ่ายเงินปันผลเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ หุ้น Verizon ก็จะมีโอกาสได้รับสถานะกลุ่มหุ้นปันผลชั้นสูงภายใน 10 ปีข้างหน้าอย่างแน่นอน
อัตราผลตอบแทนเงินปันผลหุ้น Verizon คือ 4.72% ณ ราคาในปัจจุบัน ซึ่งสูงกว่า อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง หรือผลตอบแทนของหลักทรัพย์รัฐบาล และอัตราผลตอบแทนเงินปันผลอยู่ที่ 3.39% ซึ่งสูงกว่าอัตราผลตอบแทนล่วงหน้าของดัชนี S&P 500 (1.33%)
อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 4 ปีโดยเฉลี่ยของหุ้น Verizon อยู่ที่ 4.45% มากไปกว่านั้นบริษัทยังมีอัตราการจ่ายเงินปันผลอยู่ที่ 48.45% ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เกือบครึ่งหนึ่งของรายได้สุทธิของบริษัทได้ถูกนำมาแจกจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นในรูปของเงินปันผล และในปัจจุบันหุ้น Verizon ยังเป็นหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสูงที่สุดเป็นอันดับ 3 ภายใน Dow Jones Industrial Average
การคาดการณ์และการพยากรณ์หุ้น Verizon
ดูเหมือนว่า ราคาหุ้น Verizon จะมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวหลังจากได้ลงไปยังจุดต่ำสุด (bottomed out) โดยราคาซื้อขาย ณ ปัจจุบัน อยู่ต่ำกว่าจุดต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ ที่ 0.7% นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่า หุ้นจะมีโมเม้นตัมเพิ่มขึ้น หลังจากที่ตกลงมาถึงระดับแนวรับ (support level) โดย Date จาก Tipranks กล่าวว่า หุ้น Verizon น่าจะพุ่งสูงขึ้นถึง $61.78 ภายใน 12 เดือนข้างหน้า หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือ ราคาหุ้นจะพุ่งสูงขึ้น 13.92% เมื่อเทียบกับราคา ณ ปัจจุบัน ซึ่งราคาเป้าหมายโดยเฉลี่ยมาจากราคาเป้าหมายส่วนบุคคลของนักวิเคราะห์ 10 คน
นักวิเคราะห์จำนวน 12 คนจาก Marketbeat เผยว่า จากการคาดการณ์หุ้น Verizon จะมีราคาอยู่ที่ $61.83 คิดเป็น ศักยภาพในการขึ้นของราคาอยู่ราวๆ 14.02% ทั้งนี้CNN Business ได้กำหนดราคาเป้าหมายโดยเฉลี่ยอยู่ที่ $60.20 อ้างอิงจากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์จำนวน 20 คน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า หุ้นจะมีมูลค่าสูงขึ้น 11.01% ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
แนวโน้มการเติบโตของหุ้น Verizon
บริษัทมองเห็นการเติบโตทางการเงินที่มั่นคงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ นอกจากนั้นบริษัท Verizon ยังเป็นบริษัทที่มีส่วนแบ่งการตลาดขนาดใหญ่ และมีอำนาจในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากบริษัทมีฐาน subscriber อยู่แล้วเป็นจำนวนมาก นักวิเคราะห์คาดว่า รายได้ของ VZ จะเพิ่มสูงขึ้น 5.4% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน หรือเท่ากับ 135.26 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีพ.ศ. 2564 และ กำไรต่อหุ้นที่คาดการณ์คาดว่าจะอยู่ที่ราวๆ $5.31 ในปีต่อๆ ไป ซึ่งแสดงให้เห็นว่า มีการพัฒนาขึ้น 8.4% จากปีพ.ศ. 2563 มากไปกว่านั้น Wall Street คาดว่า รายได้ของบริษัท และกำไรต่อหุ้นจะเพิ่มสูงขึ้น 0.3% และ 1.1% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน ในปีพ.ศ. 2565
การทุ่มทุนมหาศาลในเครือข่าย 5G ของ Verizon บริษัทคาดว่า บริษัทจะได้รับผลตอบแทนจากโครงการนี้ในปีต่อๆ มา หลังจากที่บริษัทสร้างเครือข่ายการค้าทั่วประเทศสำเร็จ ในระยะสั้นบริษัทกำลังวางแผนที่จะลงทุนเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน 5G ที่แข็งแกร่ง โดยบริษัทคาดว่าจะจัดสรรเงินจำนวน 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปยังรายจ่ายเพื่อการลงทุนในช่วง 2 ปีข้างหน้า ซึ่ง 2-3 พันล้านดอลลาร์ได้ถูกจัดสรรสำหรับปีพ.ศ. 2564 อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายเหล่านี้อาจจำกัดแนวโน้มการเติบโตทางการเงินของ Verizon ใน 2-3 ไตรมาสข้างหน้าได้
ฉันสามารถซื้อหุ้น Verizon ได้ที่ไหน?
เพื่อลงทุนในหุ้น Verizon คุณจะต้องสร้างบัญชีกับ Zeal Capital Market (ZFX) และแน่นอนว่า การเทรดหุ้น Verizon ผ่าน ZFX จะช่วยให้คุณได้รับผลตอบแทนสูงสุด เนื่องจากแพลทฟอร์มนี้ไม่มีการเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นจากการเทรดนั่นเอง
ZFX – แพลตฟอร์มการซื้อขาย CFD และ FX ที่มีประสิทธิภาพ
ในตลาดโลกจาก 3 ทวีป ZFX ถือว่า เป็นผู้นำแพลตฟอร์มด้านการซื้อขายสัญญา CFD และ ฟอเร็กซ์ (FX) ที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ โดย ZFX อยู่ภายใต้การดูแลของ Zeal Group ซึ่งประกอบไปด้วยบริษัทฟินเทค (fintech) และสถาบันการเงินที่ได้รับการควบคุม แพลทฟอร์ม ZFX trading เปิดให้นักลงทุนซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทอง, เงิน (โลหะ), ดัชนี และหุ้น CFDs เป็นต้น ข้อดีหลักๆ ของการเทรดกับ ZFX ก็คือ นักลงทุนสามารถเทรดหุ้น Verizon โดยใช้เลเวอเรจได้ โดยที่ไม่มีการอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ
วิธีการซื้อหุ้น Verizon ณ ตอนนี้
ZFX ใช้แพลทฟอร์ม MT4 ในการซื้อหุ้น Verizon โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
ขั้นตอนที่ 1: ลงทะเบียนกับ ZFX
เพื่อทำการซื้อขายผ่านแพลทฟอร์ม MT4 คุณจะต้องเปิดบัญชีการเทรดเสียก่อน โดย ZFX มีบัญชีด้วยกัน 3 ประเภท – Mini Trading Account, Standard STP Trading Account และ ECN Trading Account คุณสามารถเปิดบัญชีชนิดใดก็ได้ตามที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้นกับ ZFX online เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น โดยคุณสามารถเลือกเปิดบัญชีตามความชอบของคุณเองได้เลยค่ะ
ขั้นตอนที่ 2: ทำการฝากเงินครั้งแรก
ขั้นตอนต่อไปคือ การฝากเงินเข้าไปยังบัญชีของคุณ คุณสามารถเริ่มต้นการเทรดด้วยการฝากเงินขั้นต่ำที่ $50 ในกรณีที่คุณเลือก Mini trading account ในขณะเดียวกันสำหรับ Standard STP Trading Account คุณสามารถฝากเงินขั้นต่ำที่ $200 และ ECN Trading Account $1000
ขั้นตอนที่ 3: ยืนยันตัวตน
หลังจากที่คุณได้ทำการฝากเงินเรียบร้อยแล้ว บัญชี ZFX ของคุณจะถูกติดตั้ง จากนั้นให้คุณอัพโหลดเอกสารการยืนยันข้อมูลส่วนตัว แล้วบัญชีของคุณก็จะสามารถใช้งานได้
ขั้นตอนที่ 4: ซื้อหุ้น Verizon
หลังจากที่เปิดบัญชี ZFX เพียงใช้เวลาแค่ 3 นาที คุณก็สามารถเริ่มต้นเทรด CFD หุ้น Verizon ได้อย่างง่ายดาย
สรุป: คุณควรซื้อหุ้น Verizon หรือไม่?
ถึงแม้ว่า ราคาในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาจะไม่ค่อยดีนัก แต่หุ้น Verizon ก็ยังเป็นหนึ่งในหุ้นที่เป็นที่ต้องการของนักลงทุนเป็นอย่างมากในตลาด เนื่องจากการจ่ายเงินปันผลของบริษัทที่มีความสม่ำเสมอส่งผลให้ผู้ถือหุ้นได้รับผลตอบแทนสูง และยังมีค่าชดเชยกับผลตอบแทนจากกำไรส่วนต่างราคาที่ย่ำแย่ ในบางครั้ง หุ้นVerizon ถูกจัดว่าเป็นหุ้นประเภท defensive stock และด้วยความต้องการด้านโทรคมนาคมอย่างสม่ำเสมอในช่วงเวลานี้ ทำให้หุ้น Verizon เป็นหุ้นที่น่าลงทุน ณ จุดนี้เลยทีเดียว