5 อินดิเคเตอร์ MT4 ยอดนิยมที่นักเทรดต้องรู้
สำหรับนักเทรดสายวิเคราะห์ทางเทคนิค (Techincal Analysis) ตลอดจนสายวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) ที่อยากหยิบเครื่องมือทางเทคนิคมาใช้กันบ้างเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์ของตนเอง วันนี้ ZFX รวม 5 อินดิเคเตอร์ MT4 ยอดนิยมที่นักเทรดต้องรู้มาให้แล้ว จะมี Indicators ใดเหมาะกับเราบ้าง มาดูกันเลย
อะไรคือ Indicator บน MT4?
‘Indicators’ หรือ ‘ตัวชี้วัดทางเทคนิค’ สำหรับการเทรด Forex, หุ้น ฯลฯ คือ เครื่องมือทางคณิตศาสตร์สำหรับการวิเคราะห์ตัวแปรสำคัญต่าง ๆ ในการเทรด เช่น ราคาเปิด, ราคาสูงสุด, ราคาต่ำสุด, ราคาปิด, ปริมาณการซื้อขาย ถูกใช้โดยนักเทรดทั่วโลกในหลากหลายสาย โดยเฉพาะสายที่ต้องการฝึกหรือถนัดวางกลยุทธ์การเทรดผ่านการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Techincal Analysis) ช่วยให้นักเทรดสามารถเข้าใจทิศทางการเคลื่อนไหวของราคา, วิเคราะห์แนวโน้ม, ความผันผวน ตลอดจนคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ได้
โดยจากเดิมที่เราต้องมานั่งคำนวณกันเองให้ปวดหัว ปัจจุบันทุก Indicators ต่างถูกบรรจุอยู่ใน MT4 ให้นักเทรดใช้งานกันได้ง่าย ๆ เพียงแค่กรอกข้อมูลและกดให้โปรแกรมช่วยคำนวณ ไม่ช้าผลก็จะถูกแสดงออกมาให้เราเข้าใจได้อย่างง่ายและชัดเจนมากขึ้นผ่านเส้นกราฟ Indicators มีหลากหลายชนิด แต่สามารถถูกจัดให้อยู่ใน 4 หมวดหลัก ดังนี้
- หมวดเครื่องมือติดตามแนวโน้ม (Trend Following)
- หมวดเครื่องมือวัดการแกว่งตัว (Oscillator)
- หมวดเครื่องมือวัดความผันผวน (Volatility)
- หมวดเครื่องมือแนวรับและแนวต้าน (Support/Resistance)
การวิเคราะห์ด้วย Indicators ที่ดีควรใช้หลากหลาย หรืออย่างน้อยมากกว่า 1 Indicators วิเคราะห์ควบคู่กัน ยิ่งนักเทรดสามารถประยุกต์และผสานการใช้งาน Indicators ของตนเองได้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะวิเคราะห์ได้แม่นยำมากขึ้นเท่านั้น
5 อินดิเคเตอร์ MT4 ยอดนิยมที่นักเทรดต้องรู้
-
Moving Average (MA)
Moving Average (MA) หรือ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ คือ Indicator หรือเครื่องมือทางเทคนิคสำหรับการคำนวณค่าเฉลี่ย (Average) ของราคาในตลาด เช่น ตลาดหุ้น, ตลาด Forex ในระยะเวลาย้อนหลังตามที่นักเทรดกำหนด เช่น 5 วันย้อนหลัง, 10 วันย้อนหลัง ด้วยการนำราคาปิด, จุดสูงสุด, จุดต่ำสุดของราคาในระยะเวลาดังกล่าวมาหาค่าเฉลี่ย ซึ่งหากทำการคำนวณในโปรแกรม ก็จะแสดงผลออกมาเป็น ‘เส้นกราฟค่าเฉลี่ย’ ในลักษณะสมูทหรือเรียบง่ายพราะเป็นค่าเฉลี่ย ควบคู่กับ ‘เส้นกราฟราคา’ ที่จะมีลักษณะยึกยัก ขึ้นลง มากกว่าเพราะเป็นค่าผันผวน
เมื่อถูกคำนวณออกมาเป็นค่าเฉลี่ย (ที่มีลักษณะเป็นเส้นคงที่) จึงช่วยให้นักเทรดสามารถมองเห็นการเคลื่อนที่ของราคาอย่างง่ายดายมากขึ้น ความสำคัญหลักของ MA ทั้งในตลาด Forex และตลาดหุ้นจึงอยู่ที่ความสามารถของมันในการช่วยให้นักเทรดมองเห็นทิศทางราคาในแง่มุมต่าง ๆ อย่างง่ายและชัดเจนมากขึ้น MA มีหลากหลายชนิด แต่ชนิดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ (Simple) Moving Average (MA) และ Exponential Moving Average (EMA)
-
Average True Range (ATR)
Average True Range (ATR) หรือ ค่าพิสัยที่แท้จริงโดยเฉลี่ย คือ Indicator หรือเครื่องมือทางคณิตศาสตร์ชนิดหนึ่งที่ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยนักวิเคราะห์ทางเทคนิคชื่อดังอย่าง Welles Wilder Jr. ในปี 1978 เพื่อใช้ ‘วัดความผันผวน’ (volatility) ของราคาในตลาดโดยเฉพาะ ไม่สามารถบ่งชี้ทิศทางราคา แต่จะช่วยประเมิน ‘ระดับความผันผวน’ ซึ่งถือเป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยให้นักเทรดกำหนดจุด Stop Loss (SL) ได้อย่างเหมาะสม ไม่เสี่ยงเสียกำไรมากหรือได้กำไรน้อยเกินไป นอกจากนี้ ในรายที่เน้นกลยุทธ์การเทรดที่ต้องพึ่งพาสภาวะตลาดที่มีความผันผวน เช่น Grid Trading, Reversal Trading ยังสามารถใช้ ART เข้ามาช่วยจับสภาวะผันผวนหรือจังหวะในการลงทุน
-
Fibonacci
Fibonacci (ฟีโบนักชี) อีกหนึ่งเครื่องมือยอดนิยมขวัญใจนักเทรดทุกตลาด คิดค้นโดย Fibonacci นักคณิตศาสตร์ชื่อดังในปลายทศวรรษที่ 12 มีการใช้งานสำคัญคือสามารถช่วยวิเคราะห์หาแนวรับ-แนวต้านของเส้นราคา เพื่อวิเคราะห์ต่อว่าราคาจะเคลื่อนถึงจุดใดและ/หรือพักตัวที่จุดใด และหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ ควรจะกำหนด Stop Loss ไว้ที่จุดใด ถือเป็น Indicator ที่ครอบคลุมและสามารถช่วยกำหนดจุดเข้า-ออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-
MACD
MACD (Moving Average Convergence Divergence: อ่านว่า “Mac-Dee” หรือ “ M-A-C-D” ) Indicator ยอดฮิต ภาคต่อจาก MA ที่นำเอา MA สองเส้นมาวิเคราะห์และวาดคู่กัน เพื่อมองหาจุดตัด ที่จะช่วยให้นักเทรดมองเห็นจังหวะที่ราคากำลังจะเปลี่ยนทิศทางหรือแนวโน้ม การเห็นจังหวะที่กำลังจะเปลี่ยนดังกล่าวนี้ ในทางเทคนิคก็คือ ความสามารถในการดู 1) ทิศทางแนวโน้ม (Trend) และ 2) แรงส่งของราคา (Momentum) นั่นเอง
-
Bollinger Bands
ปิดท้ายกันด้วย Bollinger Bands อีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่ถูกคิดค้นโดยนักวิเคราะห์ทางเทคนิคชื่อดังอย่าง John Bollinger มีความสามารถสำคัญในการช่วยบ่งบอก ‘สภาวะตลาด’ และ ‘แนวโน้มของราคา’ เช่น ดูความต่อเนื่องของราคา (Continuation), การกลับตัวของราคา (Reversal), ลักษณะการพักตัวของราคา (Consolidation), ความน่าจะเป็นในการทะลุของราคา (Breakout), และ ระดับความผันผวนของราคา (Volatility) ด้วยความสามารถที่หลากหลายของมัน การใช้ประโยชน์จาก Bollinger Bands ในการเทรดทุกตลาด จึงนับว่าหลากหลายและขึ้นอยู่กับเทคนิคและความสามารถในการประยุกต์ของนักเทรดเป็นหลัก
รวมบทความความรู้การเทรดฟอเร็กซ์ตั้งแต่พื้นฐาน
ทำความรู้จัก EA ฟีเจอร์สำคัญของ Forex MT4 และนักเทรดมืออาชีพ
วิธีเทรดฟอเร็กซ์ให้กำไรยั่งยืน
ZFX (Zeal Capital Market) คือ โบรกเกอร์ CFD และ Forex ออนไลน์ชั้นนำ ผู้คว้ารางวัล The Best Trading Platform Award ประจำปี 2019 จาก Financial Weekly ให้บริการการเทรดสินค้ามากกว่า 100 ประเภท ไม่ว่าจะเป็นสำหรับการเทรด Forex, ทองและน้ำมัน, ดัชนีหุ้น และ CFDs เปิดบัญชีกับ ZFX วันนี้ได้ง่าย ๆ ด้วยการฝากขั้นต่ำเพียงแค่ $50
——
คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: เนื้อหาข้างต้นมีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้นและไม่ได้แสดงถึงจุดยืนของ ZFX ทางบริษัท ZFX ไม่ถือว่าการสูญเสียรูปแบบใด ๆ ที่เกิดจากการดำเนินการซื้อขายใด ๆ ที่ดำเนินการตามบทความนี้ โปรดตั้งมั่นในความคิดของคุณและควบคุมความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง ZFX (Zeal Capital Market) เป็นนายหน้าฟอเร็กซ์และ CFD ออนไลน์ที่ให้บริการมากกว่า 100 รายการสำหรับการซื้อขายฟอเร็กซ์, การซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์, การซื้อขายดัชนีและการซื้อขาย CFDs เงินฝากขั้นต่ำสำหรับการเปิดบัญชีคือ 50 เหรียญสหรัฐเปิดบัญชีซื้อขายและดาวน์โหลดแพลตฟอร์มการซื้อขาย MT4 ของเราตอนนี้!