ผู้เขียน

1.** จับตา! “ไบเดน” เล็งยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าของประเทศจีน หวังสกัดเงินเฟ้อพุ่ง   สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ อาจจะประกาศยกเลิกการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าบางส่วนจากจีนภายในสัปดาห์นี้ รวมทั้งประกาศมาตรการตรวจสอบการอุดหนุนภาคอุตสาหกรรมซึ่งอาจนำไปสู่การเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมจากหลายภาคส่วน ซึ่งรวมถึงธุรกิจเทคโนโลยี   โดยแหล่งข่าวระบุว่า ปธน.ไบเดนยังไม่ได้ตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้ายเกี่ยวกับการระงับภาษีนำเข้าสินค้าจีน ซึ่งหากมีการบังคับใช้ ก็ถือเป็นย่างก้าวแรกที่สำคัญของการใช้นโยบายด้านความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน   หลังจากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ปธน.ไบเดนได้จัดการประชุมหลายครั้งร่วมกับคณะที่ปรึกษาเศรษฐกิจ เพื่อหารือเกี่ยวกับทางเลือกในการตัดสินใจที่จะยกเลิกมาตรการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนซึ่งอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้ริเริ่ม ซึ่งคณะบริหารของปธน.ไบเดนกำลังพิจารณาผ่อนปรนภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่า

1. * วันที่ 4 กรกฎาคมเป็นวันประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกา ตลาดสหรัฐปิดทำการชั่วคราว ดังนั้น นักลงทุนควรระวังเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคากราฟคู่สกุลเงินและสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง  ที่อาจขาดปัจจัยสนับสนุนการเคลื่อนไหวจากทางตลาดสหรัฐฯ  2.** จับตาการเคลื่อนไหวของรัสเซีย ที่อาจจะปรับรายชื่อสินค้า /เงื่อนไขสินค้าส่งออกเพิ่ม และจับตาการเคลื่อนไหวที่อาจปรับลดอัตราการผลิตน้ำมัน เพื่อตอบโต้การคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก  รัสเซียเพิ่มสินค้าเกษตรหลายอย่าง เข้าสู่กลุ่มรายชื่อสินค้าส่งออกที่ต้องจ่ายเป็นเงินรูเบิล เช่น  ธัญพืช น้ำมันดอกทานตะวัน และเมล็ดพืชน้ำมัน  โดยกลไกลการชำระด้วยเงินรูเบิลของรัสเซีย ทำให้การคำนวณราคาสินค้าในขณะนี้ อย่างข้าวสาลี อยู่ที่ตันละ 15,000 รูเบิล หรือราว

1.**คืนนี้จับตารายงานตัวเลขดัชนี PMI สหรัฐฯ  คืนนี้เวลา 19.30น. สหรัฐฯจะรายงานตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อภาคการผลิต (Manufacturing Purchasing Manager Index (PMI)) จากสถาบัน ISM ซึ่งคาดการณ์ไว้ที่ 54.9 สำหรับตัวเลขดังกล่าวจะเป็นการสอบถามและรวบรวมข้อมูลจากผู้จัดการฝ่ายซื้อกว่า400บริษัทในภาคอุตสาหกรรม หากตัวเลขดังกล่าวออกมาสูงกว่าระดับ 50.0 จะถือว่าภาคการผลิตยังขยายตัวเติบโต แต่หากลดต่ำกว่าระดับ 50.0 จะถือว่าเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว ดังนั้นนักลงทุนจึงต้องระวังตัวเลขดังกล่าวที่จะรายงานออกมาและโปรดระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงการซื้อขายคู่สกุลเงินหรือสินทรัพย์ที่มีสกุลเงิน USD ในช่วงเวลาดังกล่าวเพราะอาจจะเกิดความผันผวนต่อราคาในระยะสั้นได้  2.**บ่ายนี้จับตารายงานตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) สหภาพยุโรป 

1.***คืนนี้จับตารายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคส่วนบุคคล(PCE Price Index) สหรัฐฯ  คืนนี้เวลา 19.30น. สหรัฐฯจะรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน(Core PCE Price Index ประจำรอบเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งคาดการณ์ไว้ที่ 0.4% สูงกว่าครั้งก่อนที่ทำไว้ 0.3% นั่นแปลว่านักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อส่วนบุคคลจะยังคงพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องเหตุจากเงินเฟ้อโดยรวมยังสูงอยู่ และตัวเลข PCE ถือเป็นหนึ่งในตัวเลขที่แสดงถึงเงินเฟ้อได้อย่างชัดเจนระดับบุคคล จึงเป็นตัวเลขที่ธนาคารกลางสหรัฐฯให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดและนำไปออกแบบนโยบาย ดังนั้นนักลงทุนจึงต้องระวังตัวเลขดังกล่าวที่จะรายงานออกมาในวันนี้ โปรดระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงการซื้อขายคู่สกุลเงินหรือสินทรัพย์ที่มีสกุลเงิน USD ในช่วงเวลาดังกล่าวเพราะอาจจะเกิดความผันผวนต่อราคาในระยะสั้นได้  2.**บ่ายนี้ระวังรายงานตัวเลข GDP อังกฤษ ส่วนคืนนี้ระวังตัวเลข GDP

1.**จับตาตัวเลข GDP ไตรมาส 1 สหรัฐฯ  คืนนี้เวลา 19.30น. สหรัฐฯจะรายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำรอบไตรมาสที่ 1 ซึ่งคาดการณ์ไว้ที่ -1.5% เท่ากับครั้งก่อนที่ทำไว้ -1.5% ซึ่งนับว่าตัวเลขGDPยังไม่ดีขึ้น โดยตัวเลขดังกล่าวจะวัดค่าการเปลี่ยนแปลงในมูลค่าทั้งหมดของสินค้าและบริการทั้งหมดที่เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจในรอบไตรมาสที่ผ่านมา เป็นตัวชี้วัดพื้นฐานที่จะทราบถึงภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นนักลงทุนโปรดระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงการซื้อขายคู่สกุลเงินหรือสินทรัพย์ที่มีสกุลเงิน USD ในช่วงเวลาดังกล่าวเพราะอาจจะเกิดความผันผวนต่อราคาในระยะสั้นได้  2.*เรียงแถวกันพูด! จับตาคำกล่าวของ 3 ทหารเสือแห่งธนาคารกลาง สหรัฐฯ,อังกฤษ,และสหภาพยุโรป 

1.*จับตาตัวเลขรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภค สหรัฐฯ คืนนี้  คืนนี้เวลา 21.00น. สหรัฐจะรายงานตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของคณะกรรมการการประชุม (Conference Board Consumer Confidence) ซึ่งเป็นการเก็บผลสำรวจของรอบเดือนมิถุนายน โดยคาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 100.4 ลดลงเล็กน้อยจากครั้งก่อนที่ทำไว้ 106.4 โดยตัวเลขนี้จะวัดระดับค่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในระบบเศรษฐกิจ ที่ทำนายการใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม ค่าตัวเลขที่สูงขึ้นชี้แสดงถึงการมองในแง่บวกของผู้บริโภคที่มีค่ามากขึ้น ดังนั้นนักลงทุนโปรดระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงการซื้อขายคู่สกุลเงินหรือสินทรัพย์ที่มีสกุลเงิน USD ในช่วงเวลาดังกล่าวเพราะอาจจะเกิดความผันผวนต่อราคาในระยะสั้นได้   2.*ยังไงละเนี่ย! “Bullwhip Effect” อาจทำให้เฟดต้องกลับลำนโยบายทั้งหมดที่ทำตอนนี้