ข่าวการที่บางประเทศต้องกลับมาล็อคดาวน์อีกครั้งหลังการพบผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มขึ้น เช่น ในออสเตรเลียได้กดดันบรรยากาศของตลาดหุ้นในการซื้อขายเมื่อวาน
สรุปภาพรวมตลาดวานนี้
ความกังวลของตลาดต่อรายงานผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในบางประเทศซึ่งนำไปสู่การหวนกลับมา Lock down กันอีก หลังข่าวทางด้านออสเตรเลีย และรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งที่จริงเป็นเพียงตัวอย่างจากอีกหลายๆรัฐที่เริ่มชะงักการผ่อนคลายถึงถอยหลังกลับ ได้ส่งผลต่อตลาดทางด้านลบอีกครั้ง หลังวันก่อนหน้าเป็นหนังคนละม้วน โดยการนำของตลาดจีน โดยความเห็นของเฟด (Bostic) ได้ช่วยซ้ำเติมภาพรวมด้วย เมื่อเขากล่าวประมาณว่า เศรษฐกิจที่ดูแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมานี้อาจจะเริ่มชะลอลง จากข่าวการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อจากการปลดล็อคคลายล็อค โดยดัชนีหุ้นสหรัฐฯโดนทุบก่อน นำโดยพวกหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง เช่น สายการบินต่างๆ เป็นต้น โดย $ ได้รับอานิสงส์ไปก่อนในช่วงแรก ซึ่งกดดันให้มีแรงเทขายทองกลับลงมาบ้าง แต่ทั้ง $ ที่ยังคงพบแนวต้านใกล้บริเวณเส้น 200 ในทางกลับกัน ราคาทองพบแนวรับใกล้บริเวณเส้น 200 ในขณะที่ดัชนีหุ้นสหรัฐฯแกว่งขึ้นลงในกรอบไม่กว้างนักเพราะถูกถ่วงน้ำหนักในหุ้นต่างกลุ่ม ที่มีทั้งขึ้นและลงคละเคล้ากันไปในช่วงแรกของตลาดอเมริกา ส่งให้ราคาทองคำกลับมาโดดเด่นอีกครั้ง และได้ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งจนได้ทำนิวไฮอีกระลอกบนแนวโน้มขาขึ้นล่าสุดนี้ ดัชนีหุ้นสหรัฐฯที่กลับรูดลงอีกในช่วงปลายตลาด จากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ได้หนุนดัชนีฯโดยรวมมาตลอดเริ่มแผ่วลง ส่งให้ $ ปรับขึ้นบ้าง แต่ก็เพียงทำให้ราคาทองคำเริ่มนิ่งแต่ก็ยังปิดการซื้อขายที่ระดับไฮของวัน สรุปตลาดยังคงเป็นอะไรที่ขับเคี่ยวกันระหว่างหมีกับกระทิงแบบผลัดกันรุกผลัดกันรับนั่นเอง ดังที่ได้บอกไว้หลายครั้งแล้ว และอาจจะเป็นเช่นนี้อีกนานพอสมควร เราจึงจะเจอข่าวประเภทเดิมๆ ที่ขึ้นก็ข่าวนี้ ถ้าลงก็ข่าวนั้น เป็นประจำ
สรุปภาพรวมตลาดวันนี้
ส่วนในวันนี้ การเคลื่อนไหวของตลาดโดยรวมน่าจะถูกครอบงำโดยปัจจัยทางเทคนิค ซึ่งแน่นอนก็อาจจะยังคงมีทั้งข่าวบวก ข่าวลบเข้ามาได้ ซึ่งข่าวบวกมีข่าวอะไรบ้าง ข่าวลบมีข่าวอะไรบ้าง น่าจะเป็นที่ชินกันพอสมควร โดยวันนี้แทบจะไม่มีการประกาศตัวเลขที่สำคัญๆใดๆยกเว้น ตัวเลขสต๊อกน้ำมันฯของสหรัฐฯซึ่งถูกคาดการณ์ไปในทางบวกต่อราคาน้ำมันฯเพียงแต่ตัวเลขของทางภาคเอกชนที่เพิ่งถูกประกาศออกมาถือว่าพลิกไปในทิศทางลบต่อราคาน้ำมัน แต่ก็ไม่ได้เห็นการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันฯอย่างมีนัยสำคัญนักหลังราคาน้ำมันฯได้รูดลงมาก่อนหน้าแล้วในทิศทางเดียวกับดัชนีหุ้นสหรัฐฯในช่วงท้ายตลาดเมื่อวาน