ข่าวการพูดคุยกันทางโทรศัพท์ระหว่างทรัมป์กับปูติน ที่จะให้มีการพูดคุยกันระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสองฝ่ายเพื่อพยุงราคาน้ำมันฯได้ช่วยหนุนราคาน้ำมันดิบให้ดีดขึ้นบ้างหลังได้รูดลงต่ำสุดในรอบ 18ปี
สรุปภาพรวมตลาดวานนี้
ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ปรับลดลงในช่วงต้นตลาดวันจันทร์จากข่าวรายงานผู้ติดเชื้อฯ ในสหรัฐฯพุ่งขึ้นทะลุ 100,000 คน และจากการที่ทรัมป์ประกาศยืดเวลาของสังคมออกห่างไปอีกจากวันที่ 12 เป็น 30 เมษายนนี้ ซึ่งในข่าวที่สองนี้ได้ฉุดราคาน้ำมันดิบฯลงมาด้วย ในขณะที่ถือเป็นทั้งข่าวลบและข่าวบวกในข่าวเดียวกัน ข่าวบวกถือว่าจะเป็นมาตรการสะกัดกั้นการแพร่ระบาดของCOVID-19 อย่างไรก็ดีในช่วงเย็นใกล้ค่ำก็มีข่าวบวกออกมา โดยทางบริษัท Johnson &Johnson จะเริ่มทดลองวัคซีนในมนุษย์ได้ในเดือนกันยายนนี้ ข่าวประเภทนี้มีมาบ่อยๆแต่หลายข่าวขาดการยืนยันอย่างเป็นทางการ และถ้าคิดอีกอย่าง กันยายนนี้ก็ยังดูไกลพอสมควร แต่ดูเหมือนดัชนีหุ้นสหรัฐฯจะตอบสนองต่อข่าวดีได้มากขึ้น กถือเป็นปัจจัยบวกทางเทคนิคด้วย ในขณะที่ราคาทองคได้เคลื่อนไหวในลักษณะของการพักตัวออกด้านข้าง โดยไม่ใช่เพราะการซื้อขายเบาบางทำให้สเปรดกว้าง แต่อาจกลับกันโดยสเปรดกว้างทำให้การซื้อขายเบาบาง โดยภาพรวม $ กลับมาแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย
สรุปภาพรวมตลาดวันนี้
ส่วนในวันนี้ ตัวเลขดัชนีภาคการผลิตของจีนหรือ PMI ได้ออกมาแข็งแกร่งเกินการคาดการณ์และกลับขึ้นมายืนเหนือระดับ 50.0ได้อีกครั้งอย่างเหนือความคาดหมายและมีส่วนหนุนบรรยากาศของตลาดหุ้นโดยรวม ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบฯฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้บ้างหลังข่าวว่า ทางสหรัฐฯกับรัสเซียเห็นชอบที่จะให้มีการพูดคุยกันในเจ้าหน้าที่ระดับสูงเพื่อช่วยพยุงราคาน้ำมันฯนั่นเอง อย่างไรก็ดี ก็มีข่าวประมาณนี้จากทางทรัมป์ออกมาบ่อยๆช่วงนี้ที่ราคาน้ำมันดิบรูดลงอย่างมาก โดยล่าสุดก็ได้รูดลงไปต่ำสุดในรอบ 18ปีแล้ว โดยยังคงไม่มีความเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน โดยเฉพาะข่าวล่าสุดนี้ก็ยังไม่ได้กำหนดเวลาที่ชัดเจนออกมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกโดยเฉพาะในสหรัฐฯและยุโรปก็ยังคงขยับขึ้นอย่างมาก ถึงแม้ตลาดจะได้ซึมซับข่าวเช่นนี้ไปพอสมควรแล้ว โดยค่ำคืนนี้ก็จะเริ่มมีการประกาศตัวเลขสหรัฐฯอุ่นเครื่องกันก่อนหน้าตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯในวันศุกร์ที่นักลงทุนทุกท่านไม่ควรพลาด และอาจจะมีการ Live on Facebook ให้ติดตามกันเหมือนเคย หลังจากเงียบหายไปนานจากพิษของCOVID-19 ซึ่งทำให้เกิดการ Work from home โดยตัวเลขดังกล่าวคือ ดัชนีภาคการผลิตสำรวจที่มหาวิทยาลัยชิคาโก และตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคฯ ซึ่งทั้งคู่ถูกคาดการณ์ว่าจะต่ำลงตามระเบียบ แต่ควรติดตามเพื่อดูว่าตลาดจะตอบสนองอย่างไร หลังตลาดได้ซึมซับข่าวลบไปพอสมควรแล้ว แต่ครั้งนี้ ดัชนีหุ้นสหรัฐฯได้มายืนที่ด้านบนของกรอบ
นาย ธนพล แสงรังษี