ดัชนีหุ้นอุตสาหกรรมดาวโจนส์ของสหรัฐฯ ได้ทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่หลังทางค่าย Pfizer ได้ออกมากล่าวว่าวัคซีนที่ได้ทดลองในช่วงท้ายๆ มีผลในการป้องกันโควิด-19 มากกว่า 90%
สรุปภาพรวมตลาดวานนี้
เริ่มต้นด้วยการปรับขึ้นก่อนของดัชนีหุ้นสหรัฐฯ และในหลายประเทศขานรับชัยชนะในการเลือกตั้งสหรัฐฯ ของนาย โจ ไบเดน จากฟากเดโมแครตหลังจากนั้นตลาดก็ค่อนข้างเงียบและเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆจนทันใดนั้นซึ่งไม่น่าจะมีใครคาดการณ์ล่วงหน้าได้ ทางค่ายวัคซีนของ Pfizer ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า วัคซีนที่ได้ทำการทดลองในขั้นท้ายนั้นมีผลในการป้องกันโคโรน่าไวรัสหรือโควิค -19 มากกว่า 90% ส่งให้ดัชนีหุ้นอุตสาหกรรมดาวโจนส์ของสหรัฐฯทะยานขึ้นทันทีแถมได้ทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ด้วย ในขณะที่ค่าเงิน USD โดยรวมไม่ได้ขยับลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องด้วยข่าวนี้เป็นผลบวกโดยตรงต่อหุ้นในดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ แต่กลับอาจเป็นข่าวลบต่อดัชนีหุ้น Nasdaq ค่าเงินเยนที่ถูกเทขายออกมาอย่างมากหรือ USD/JPY ที่ได้ทะยานขึ้น กลับกดดันให้มีแรงเทขายทองคำออกมา เนื่องด้วยค่าเงินเยนกับทองคำนั้นอยู่ในสถานะเดียวกัน กล่าวคือ สินทรัพย์ที่ปลอดภัยหรือ Safe Haven assets นั่นเอง การรูดลงผ่านแนวรับสำคัญทางเทคนิคของทองคำ ($1935) ได้กระตุ้นให้มีการเทขายตัดขาดทุนด้วย การกลับขึ้นของ USD โดยรวมช่วยกดดันราคาทองคำเพิ่มขึ้นอีก ในขณะที่ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ เริ่มถอยลงจากแรงเทขายทำกำไรในช่วงท้ายตลาด
สรุปภาพรวมตลาดวันนี้
ส่วนในวันนี้ การปรับลงก่อนของดัชนีหุ้นสหรัฐฯได้พบแรงช้อนซื้อกลับขึ้นไปอีกครั้ง ในขณะที่การปรับลงก่อนของค่าเงิน USD ได้ช่วยหนุนราคาทองคำให้ฟื้นกลับขึ้นไปได้บ้าง จากการเทขายอย่างหนักเกินเหตุเมื่อวานนี้ซึ่งส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการกระตุ้น S/L orders บวก panic sell โดยวันนี้จะมีการประกาศตัวเลขการเปิดรับสมัครงานทางภาคเอกชนสหรัฐฯซึ่งถูกคาดการณ์ว่าจะต่ำกว่าเดือนก่อนหน้านี้พอสมควร ข่าวเกี่ยวกับการเลือกตั้งอาจยังคงต้องติดตามต่อพอสมควร
หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์
นายธนพล แสงรังษี