ดัชนีหุ้นอุตสาหกรรมดาวโจนส์ได้ปรับขึ้นสูงสุด(11.8%)ในรอบเดือน นับตั้งแต่เดือนมกราคมปี 1987 ท่ามกลางข่าวลบและข่าวบวก
สรุปภาพรวมตลาดวานนี้
ดัชนีหุ้นสหรัฐฯได้ปรับลงในต้นตลาดวันจันทร์จากข่าวลบทางด้านทรัมป์ที่จะขึ้นบัญชีดำบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีน ผสมโรงกับการปิดโพสิชั่นเพื่อตระหนักกำไรในรอบเดือนของบรรดากองทุนต่างๆ ตัวเลขสหรัฐฯเมื่อคืนก็ได้ออกมาซ้ำเติมอีกโดยได้ออกมาอ่อนแอกว่าการคาดการณ์ทั้งคู่ อย่างไรก็ดี การรูดลงได้พบแนวรับและแรงซื้อ(Bargain Hunting)กลับเข้ามาหลังการทดสอบแนวรับที่บริเวณเส้นเทรนไลน์พอดี ซึ่งผมได้ลากให้ดูในช่วง Facebook Live เย็นวันจันทร์ที่ผ่านมานี่เอง โดยความคาดหวังเชิงบวกของวัคซีนยังคงเป็นปัจจัยบวกช่วยหนุน ในขณะที่ราคาทองคำก็ได้พบแนวรับและมีแรงซื้อกลับเข้ามาบ้าง หลังเกิดสัญญาณภาพบวกจาก Bullish Divergence ทั้งบน RSI และ Stochastic ในขณะที่ข่าวการมาถึงสหรัฐฯของวัคซีนจากทาง Pfizer จำนวน 50 ล้านโดสได้ช่วยหนุนดัชนีหุ้นสหรัฐฯด้วย โดยดัชนีหุ้นอุตสาหกรรมดาวโจนส์ได้ปิดการซื้อขายของเดือนพฤศจิกายนด้วยการทำสถิติสูงสุดใหม่ และทะยานขึ้นมากสุด(11.8%)นับตั้งแต่เดือนมกราคมปี 1987
สรุปภาพรวมตลาดวันนี้
ส่วนในวันนี้ ความเห็นจากนาย Powell ประธานเฟดและตัวเลขของจีนที่แข็งแกร่งพลิกการคาดการณ์อีกได้กดดันค่าเงิน USD.CNH รวมถึง USD โดยรวมไปด้วย รวมถึงข่าวบวกทางด้านวัคซีน ซึ่งถือเป็นปัจจัยช่วยหนุนราคาทองคำด้วย โดยค่ำคืนนี้ก็จะมีการประกาศตัวเลขดัชนีจัดซื้อจัดจ้างทางภาคการผลิตของสหรัฐฯซึ่งถูกคาดการณ์ว่าจะอ่อนแอลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าที่แข็งแกร่งพลิกการคาดการณ์ค่อนข้างมาก โดยจะมีถ้อยแถลงของนาย Powell ให้ติดตามด้วยซึ่งแน่นอนถูกคาดการณ์ไปทางสายพิราบจ๋าๆ ส่วนทางด้านการประชุมโอเปคพลัสได้ถูกเลื่อนออกไปถึงวันพฤหัสบดีนี้ เนื่องจากยังคงตกลงกันไม่ได้
หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์
นายธนพล แสงรังษี