ตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19ในสหรัฐฯได้พุ่งขึ้นอย่างมากและแซงจีนและอิตาลีขึ้นเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดในโลกไปแล้ว
สรุปภาพรวมตลาดวานนี้
เริ่มต้นกันด้วยข่าวดีทางด้านสหรัฐฯโดยสภาสูงได้มีมติผ่านร่างแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่าสองล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งถือว่ามากสุดในประวัติศาสตร์ ถึงแม้ตลาดจะได้ซึมซับข่าวไปบ้างแล้ว เข้าสู่ตลาดอเมริกา ตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ในสหรัฐฯ ได้ออกมาสูงเกินการคาดการณ์อย่างมาก และถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ (3,283K) ได้ช่วยหนุนให้ราคาทองคำขึ้นต่อหลังการดีดขึ้นตามปัจจัยทางเทคนิคและได้ทำนิวไฮของการขึ้นรอบนี้ด้วยในขณะที่ส่งให้ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯโดยรวมอ่อนค่าลงอีก อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นสหรัฐฯกลับทะยานขึ้นหลังการปรับย่อลงทางเทคนิคโดยได้ข่าวหนุนเพิ่มจากทางหัวหน้าที่ปรึกษาประจำทำเนียบขาว (Larry Kudlow) โดยเขาได้กล่าวว่า งบการกระตุ้นเศรษฐกิจจากผลกระทบของ COVID-19 อาจสูงถึง $6 T หรือ หกล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบได้ปรับลงหลังแผนกระตุ้นฯไร้ร่องรอยของงบสนับสนุนราคาน้ำมันฯตามที่ทรัมป์ได้เคยเปรยไว้ ในขณะที่สงครามราคาระหว่างซาอุฯกับรัสเซียยังคงดำเนินต่อไป โดยยังไม่มีสัญญาณของการเจรจาสงบศึก อย่างไรก็ตาม ใสช่วงท้ายตลาด ราคาทองได้มีการปรับลงพอสมควรจากแรงเทขายทำกำไรโดยมีสัญญาณภาพลบเล็กๆกดดัน (Bearish Divergence) บนกราฟรายสี่ชั่วโมง
สรุปภาพรวมตลาดวันนี้
ส่วนในวันนี้ ก็จะมีการประกาศตัวเลขสหรัฐฯส่งท้ายสัปดาห์กัน กล่าวคือ ตัวเลขรายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล รวมไปถึงตัวเลขที่เฟดโปรดปรานในการใช้ดูแนวโน้มเงินเฟ้อ (Core PCE YoY) ซึ่งถูกคาดการณ์ว่าจะปรับสูงขึ้นเล็กน้อยแต่ยังคงอยู่ใต้เป้าหมายเงินเฟ้อของเฟด เพียงแต่ถ้าออกมาสูงมากอาจทำให้เฟดปวดหัวพอสมควร เพราะสิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็คือ เศรษฐกิจชะลอตัวรุนแรง แต่เงินเฟ้อกลับปรับสูงขึ้น อีกตัวส่งท้ายก็คือ ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคสำรวจที่มหาวิทยาลัยมิชิแกน ซึ่งถูกคาดการณ์ว่า จะต่ำลงถึงแม้จะไม่มากเท่าไหร่ แต่คงต้องรอติดตามกันดูครับ ส่วนข่าวดีในเรื่องของCOVID-19ยังคงไม่เห็นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ข่าวร้ายโดยเฉพาะสำหรับสหรัฐฯ นั้นมี กล่าวคือ ยอดผู้ติดเชื้อฯในสหรัฐฯได้แซงจีนและอิตาลี ขึ้นนำเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อฯ มากที่สุดในโลกไปแล้ว
นาย ธนพล แสงรังษี