มาตรการกระตุ้นทั้งทางภาครัฐฯสหรัฐฯและเฟด ยังคงส่งผลบวกต่อตลาดในระยะสั้นๆ และตัวเลขการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ยังคงรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในอิตาลีและสหรัฐฯยังกดดันบรรยากาศของการลงทุน
สรุปภาพรวมตลาดวานนี้
ตลาดยังคงถูกครอบงำในเรื่องของการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยทางภาครัฐฯต่างๆรวมถึงธนาคารกลางฯยังคงทยอยออกมาตรการต่างๆเพื่อต่อสู้กับ COVID-19 อย่างไรก็ดี ยังดูเหมือนว่ามาตรการต่างๆเหล่านั้นยังคงมีผลบวกต่อตลาดเพียงระยะสั้นๆ ถึงแม้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคตข้างหน้า แต่ยังไม่อาจยืนยันหรือฟันธงได้ว่าเมื่อไหร่ โดยเข้าสู่ตลาดอเมริกา ตัวเลขยอดขายปลีกสหรัฐฯได้ออกมาพลิกเป็นติดลบ ซึ่งก็ถือเป็นโอกาสของการเข้าลงทุนได้ค่อนข้างง่ายดายหรือเรียกว่า ลาภลอย กล่าวคือ ในขณะที่ตัวเลขสหรัฐฯกำลังจะออกนั้น ราคาทองได้อยู่ในแดนโลโซน เข้าตามหลักการของการลงทุนพื้นฐานฯมากๆดังได้เคยบอกให้ทราบไปแล้วหลายต่อหลายครั้ง จึงไม่น่าแปลกใจอะไรเลยที่จะเห็นแรงซื้อกลับเข้ามาในทอง ข่าวบวกเข้ามาเสริมอีกบ้างจากทางเฟด โดยเฟดจะช่วยบรรดาธุรกิจที่ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบของ COVID-19 โดยจะอัดฉีดเงินกู้ยืมระยะสั้นให้ในวงเงินถึง $1 T (Trillion)ส่งให้ดัชนีหุ้นสหรัฐฯฟื้นตัวขึ้น และต่อจากนั้นยังได้ข่าวบวกเพิ่มจากทางรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯโดยเขากล่าวประมาณว่า ทางคณะบริหารของทรัมป์กำลังมองหาหนทางที่จะอัดฉีดเงินสดให้กับชาวอเมริกันอย่างทันทีทันใด(อาจหมายถึงภายในสองสัปดาห์ข้างหน้า) และยังมีข่าวบวกเพิ่มเข้ามาอีก โดยทางทรัมป์ได้ตั้งเป้าวงเงินที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ถึง $1 T
สรุปภาพรวมตลาดวานนี้
ส่วนในวันนี้ ข่าวการแพร่ระบาดของ COVID-19 ยังคงรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในอิตาลีและสหรัฐฯ และทางการทั่วโลกยังมีแนวโน้มที่จะออกมาตรการควบคุมเข้มขึ้น ซึ่งนั่นก็คงต้องแลกด้วยการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจอย่างรุนแรงด้วย และดัชนีหุ้นสหรัฐฯหลังได้ยาแรงกระตุ้น หมดฤทธิ์ยาก็ได้รูดลงอีกระลอกตามระเบียบ จนทำให้มีการหยึดพักการซื้อขายชั่วคราวอีกครั้ง เป็นภาพซ้ำเดิมๆจนอาจเป็นโอกาสของนักเก็งกำไรที่รู้เท่าทันและทำกำไรกันไปได้พอสมควร ถึงแม้ว่า เหตุการณ์เช่นนี้จะไม่ได้เกิดและเป็นไปตามนี้ตลอดกาล ส่วนทางด้านทองคำหลังได้ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อวาน ก็ได้ถูกเทขายทำกำไรกันออกมา เพื่อรอดูสถานการณ์ต่อไป และในค่ำคืนนี้ก็จะมีการประกาศตัวเลขสหรัฐที่สำคัญทางด้านภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งถูกคาดการณ์ว่าจะลดความร้อนแรงลงบ้างหลังเดือนก่อนหน้าที่แข็งแกร่งพลิกทุกการคาดการณ์ เพียงแต่ความวิตกไปข้างหน้าจึงส่งให้ตัวเลขบวกไม่มีผลบวกอย่างเต็มที่
นาย ธนพล แสงรังษี