ราคาทองได้ทะยานขึ้นสูงสุดในรอบ 7 ปีจากนโยบายที่ผ่อนคลายสุดๆของทางธนาคารกลางสำคัญๆทั่วโลก
สรุปภาพรวมตลาดวานนี้
การปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันฯลงของกลุ่มโอเปคพลัส ยังคงไม่เพียงพอที่จะหนุนให้ราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นได้ ในขณะที่ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ได้มีการปรับลงในช่วงต้นตลาดอเมริกาจากความกังวลในผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของสหรัฐฯ และ $ ที่ปรับลงโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับค่าเงินเยน ได้ช่วยหนุนราคาทองให้ทะยานขึ้นสูงสุดในรอบ 7 ปี โดยปัจจัยหลักที่ได้ช่วยหนุนราคาทองนั้นมาจากการที่ธนาคารกลางสำคัญๆในหลายประเทศโดยเฉพาะสหรัฐได้อัดฉีดเงินปริมาณมหาศาลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน บวกอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ต่ำสุดขั้วและยังคงจะต่ำอยู่ต่อไปจนกว่าสถานการณ์ COVID-19จะคลี่คลายลง อย่างไรก็ดี นักลงทุนและนักเก็งกำไรอาจมองสลับกันไประหว่างทองกับหุ้น ที่อาจชิงความเป็นที่ดึงดูดของเขา โดยตลาดเริ่มหันมาให้ความสนใจในผลประกอบการไตรมาสแรก และโดยความคาดหวังว่า การแพร่ระบาดของ COVID-19 จะถึงจุดสูงสุด
สรุปภาพรวมตลาดวันนี้
ส่วนในวันนี้ ตลาดเริ่มกลับมาเต็มอีกครั้ง แต่โดยยังคงไม่มีการประกาศตัวเลขที่สำคัญๆอะไรโดยเฉพาะในสหรัฐฯ ฉะนั้นการเคลื่อนไหวของตลาดโดยรวมอาจถูกครอบงำโดยการลงทุนตามปัจจัยทางเทคนิค ถึงแม้จะยังคงต้องติดตามข่าวและสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของ COVID-19 อีกสักระยะ ซึ่งหลายฝ่ายรวมถึงส่วนตัวมองว่า ใกล้ถึงจุด Peak เมื่อถึงจึดนั้น มาตรการต่างๆจากทางภาครัฐฯและธนาคารกลางสำคัญๆโดยเฉพาะสหรัฐฯก็จะหยุดการเพิ่มลง และนั่นจะเป็นบทพิสูจน์ตามทฤษฎีว่า ทองกับหุ้น อะไรจะโดดเด่นกว่ากัน
นาย ธนพล แสงรังษี