รายงานผู้ติดเชื้อในรัฐนิวยอร์คของสหรัฐอเมริกาที่ได้ทะลุ 75,000 คน ได้ส่งให้มีแรงเทขายดัชนีหุ้นสหรัฐฯกลับลงมาอีกครั้ง ซ้ำเติมด้วยการคาดการณ์จากทางทำเนียบขาวว่าจะมีผู้เสียชีวิตจากCOVID-19 ถึงราว 100,000-240,000 คน
สรุปภาพรวมตลาดวานนี้
ข่าวบวกทางด้านบริษัท Johnson &Johnson จะเริ่มต้นทดลองวัคซีนในมนุษย์ได้ในเดือนกันยายนนี้ ได้ช่วยหนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯจากวันจันทร์ต่อเนื่องถึงต้นตลาดวันอังคาร โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นด้วย จากการเห็นชอบกันทางโทรศัพท์ระหว่างทรัมป์กับปูตินที่จะให้มีการพูดคุยกันระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสองฝ่ายเพื่อพยุงราคาน้ำมันฯ ถึงแม้ทั้งสองข่าวนี้ยังคงไกลจากความเป็นรูปธรรมดังที่ได้แจ้งให้ทราบแล้ว โดยตลาดได้เริ่มมีการเทข่ยทกำไรกลับลงมาบ้าง รวมถึงทองคำด้วย โดยมีข้อสังเกตุเพิ่มเติมด้วยเมื่อวานเป็นทั้งวันซื่อขายสุดท้ายของเดือนและไตรมาส อย่างไรก็ดี ตัวเลขสหรัฐฯ ได้ออกมาดีกว่าการคาดการณ์ทั้งสองตัว และได้ช่วยหนุนดัชนีหุ้นสหรัฐฯให้ดีดกลับขึ้นไปอีกรอบ ก่อนที่จะถูกเทขายกลับลงมาอีกครั้งหลังรายงานข่าวว่ามีผู้ติดเชื้อในรัฐนิวยอร์คทะยานขึ้นทะลุ 75,000 คน ส่งให้เกิดความวิตกกังวลกันอีก โดดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ได้ปิดการซื้อขายประจำไตรมาสที่เลวร้ายที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยทองก็ถูกเทขายลงด้วยเช่นกัน และได้รูดหลุดกรอบแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1592 ลงมาพร้อมทั้งปิดยืนยันที่ด้านล่างแบบจมกองเลือดเลยก็ว่าได้ โดยราคาน้ำมันดิบได้รูดกลับลงมาอีกระลอกหลังยังคงเป็นเพียงน้ำลายหรือภาษาทางการเรียกว่า Verbal Intervention
สรุปภาพรวมตลาดวันนี้
ส่วนในวันนี้ เปิดฉากมา ดัชนีหุ้นสหรัฐฯก็โดนทุบต่อทันที หลังข่าวทางทำเนียบขาวทำนายทายทักว่า จะมีผู้เสียชีวิตจากCOVID-19 ในสหรัฐฯถึงราว 100,000-240,000 คน และทรัมป์ได้กล่าวประมาณว่า สหรัฐฯจะเผชิญกับการปวดหัวอย่างยิ่งในช่วงสองถึงสามสัปดาห์ข้างหน้านี้ แต่กลับส่งให้ราคาทองคำฟื้นขึ้นไปในทิศทางตรงกันข้ามกัน โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อในหลายประเทศโดยเฉพาะในสหรัฐฯและยุโรปยังคงทะยานขึ้นอย่างมาก โดยสหรัฐฯยังคงครองอันดับหนึ่งซึ่งยากแก่การช่วงชิง กล่าวคือ มีผู้ติดเชื้อมากถึง 187,919 คนนับถึงวันอังคาร โดยอิตาลีครองแชมป์มีผู้เสียชีวิตมากสุด และคืนนี้จะมีการประกาศตัวเลขสหรัฐฯ ที่สำคัญถึงสองตัว โดยทั้งคู่ถูกคาดการณ์ว่าจะอ่อนแอลง จากผลกระทบของ COVID-19 นั่นเอง โดยเฉพาะในส่วนของตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯ ซึ่งถูกคาดการณ์ว่าจะติดลบ และเป็นการติดลบครั้งแรกในรอบหลายปีมาก ซึ่งน่าติดตามอย่างมากและอาจเป็นโอกาสของการลงทุนอย่างน้อยสั้นๆได้ โดยเฉพาะถือเป็นตัวเลขอุ่นเครื่องก่อนวันศุกร์นี้ นี่คือ ก้าวสำคัญทางประวัติศาสตร์สหรัฐฯและโลก จะพลาดโอกาสนี่ได้อย่างไรกัน
นาย ธนพล แสงรังษี