สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่เพิ่มขึ้นหลังทรัมป์ได้กล่าวว่าจะมีการประกาศการตอบโต้ต่อจีนในเรื่องกฎหมายใหม่ที่จะใช้กับฮ่องกงในสุดสัปดาห์นี้ โดยได้ส่งให้ค่าเงิน USD/CNH ทะยานขึ้นอย่างมาก และกดดันราคาทองให้รูดลงมา
สรุปภาพรวมตลาดวานนี้
ตลาดได้เคลื่อนไหวโดยได้รับทั้งข่าวบวกและลบ โดยข่าวบวกได้ดูเด่นกว่าเมื่อวาน โดยได้สะท้อนไปที่ตลาดหุ้น หลังข่าวบวกทางด้านความคืบหน้าของการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโคโรน่าจากค่าย Novavax ประกอบกับคำพูดของผู้นำฝ่ายบริหารเกาะฮ่องกง ที่ว่า กฏหมายใหม่ที่จะออกโดยจีนนั้นจะไม่กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนฮ่องกง การผ่อนคลายและปลดล็อคทางเศรษฐกิจในหลายประเทศรวมถึงล่าสุดทางญี่ปุ่นได้ช่วยหนุนบรรยากาศของการลงทุนในตลาดหุ้นเพิ่มด้วย อย่างไรก็ดี เข้าสู่ตลาดอเมริกา ตัวเลขสหรัฐฯ ได้ออกมาค่อนข้างผสม โดยตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ได้ออกมาพลิกการคาดการณ์แบบถล่มทลาย โดยได้ออกมาแข็งแกร่งพลิกการคาดการณ์ ส่วนทางด้านตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคฯ นั้นได้ออกมากั๊กๆ กล่าวคือ ต่ำกว่าการคาดการณ์แต่สูงกว่าเดือนก่อนหน้าซึ่งได้มีการเปลี่ยนแปลงลง แต่ก็ไม่ได้มีผลกระทบมากนักต่อบรรยากาศการลงทุน โดยดัชนีหุ้นสหรัฐฯยังคงปรับขึ้นถึงแม้จะมีอาการเหวี่ยงๆบ้าง โดย $ ถูกเทขายออกมาจากการปิดสถานะในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ซึ่งในสถานการณ์ของ COVID-19 นี้ มักมีการเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับดัชนีหุ้นสหรัฐฯ นั่นเอง ส่วนทองนั้นกลับถูกเทขายลงมาค่อนข้างแรง โดยเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในการถือครองและตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งได้ส่งผลให้ค่าเงิน USD/CNH ปรับขึ้น สรุปตัวเด่นหรือพระเอกของวันยังคงเป็นตลาดหุ้นนั่นเอง
สรุปภาพรวมตลาดวันนี้
ส่วนในวันนี้ ข่าวลบได้เข้ามาอีกระลอกหลังสื่อค่ายประจำ (Bloomberg) ได้รายงานว่า ทางสหรัฐฯ กำลังพิจารณาคว่ำบาตรต่อบริษัทฯ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนต่อเรื่องสถานการณ์ในฮ่องกง ตามด้วยทางทรัมป์ซึ่งได้กล่าวว่า ทางคณะบริหารของเขาจะประกาศการตอบโต้ต่อการกระทำของจีนในเรื่องกฏหมายใหม่ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยได้ส่งให้ค่าเงิน USD/CNH ทะยานขึ้นอย่างมาก โดยได้เป็นอานิสงส์ต่อค่าเงิน $ โดยรวมด้วย และเป็นปัจจัยกดดันราคาทองที่บอบช้ำอยู่แล้วจากการถูกทุบเมื่อวาน แต่ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ยังคงโดดเด่น โดยการปลดล็อคในหลายประเทศที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยังคงเป็นปัจจัยบวกหนุนดัชนีหุ้นฯ โดยวันนี้แทบจะไม่มีการประกาศตัวเลขที่สำคัญๆ ใดๆ ยกเว้นตัวเล็กๆ จากทางสหรัฐฯ กล่าวคือ ดัชนีจัดซื้อจัดจ้างทางภาคการผลิตใน Richmond