เฟดได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายฯไว้ที่ระดับ 0.00%-0.25% และมองว่าจะอยู่ในระดับนี้ก้าวผ่านปี 2022 ซึ่งถือว่าเฟดยังมีมุมองเชิงลบ และส่งให้ดัชนีหุ้นสหรัฐฯรูดลง ในขณะที่พันธบัตรรัฐบาลฯ และทองคำได้รับอานิสงส์ไป
สรุปภาพรวมตลาดวานนี้
ถือเป็นวันสำคัญประจำสัปดาห์ ที่ตลาดและนักลงทุนรอดู รอฟัง รออ่านผลการประชุมเฟด โดยนักลงทุนส่วนหนึ่งได้เข้าไปพักพิงที่ตลาดพันธบัตรฯและทองคำ โดยเทขายดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ลงมา ในขณะที่ก่อนหน้านี้ดัชนีหุ้น Nasdaq กลับได้ขึ้นไปทำสถิติสูงสุดใหม่นำโดยห้นกลุ่มเทคโนโลยีดังได้กล่าวไว้เมื่อวาน โดยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯได้ออกมาอยู่ในเกณฑ์ของการคาดการณ์และไม่ได้ส่งผลต่อตลาดนัก โดยในที่สุด เฟดได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.00%-0.25% ตามการคาดการณ์ แต่ก็ส่งให้มีความผันผวนต่อตลาดเป็นปรกติ โดยดัชนีหุ้นสหรัฐฯได้ปรับขึ้นก่อนแล้วตามด้วยการรูดกลับลงมา ในขณะที่ราคาทองมีการรูดลงก่อนแล้วต่มด้วยการดีดกลับขึ้นไปอย่างแข็งแกร่ง โดยเฟดส่วนใหญ่มองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะยังคงน่าจะอยู่ใกล้บริเวณ 0.00% ไปจนถึงหรือก้าวผ่านปี 2022 ไป ในขณะที่ยังคงทำ QE หรือการเข้าซื้อพันธบัตรฯต่อ อย่างน้อยในอีกหลายเดือนข้างหน้า(เฟดมีการลดการเข้าซื้อพันธบัตรหรือตราสารทางการเงินลดลงอย่างฮวบฮาบจากช่วงแรก $300 B ต่อเดือน คงเหลือเพียงราว $20 B ต่อสัปดาห์ในช่วงที่ผ่านมานี้ และการที่ตัวเลขสหรัฐฯที่ผ่านมาโดยเฉพาะในเดือนพฤษภาคมที่ส่วนใหญ่จะดีกว่าการคาดการณ์ โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯกลับไม่ได้เป็นแรงจูงใจใ้ห้เฟดมีมุมมองต่อแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น แถมกลับมองว่ายังคงเป็นหนทางอีกยาวไกลสู่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังพิษของโคโรน่าไวรัส ซึ่งในประเด็นนี้เองที่หลายฝ่ายหรือหลายแหล่งข่าวได้มองข้ามไปโดยไม่ได้เน้นถึงมุมมองนี้ และเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นกลับปรับลง โดยนอกนั้นก็เป็นรายละเอียดซึ่งหลายท่านคงได้ทราบกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการที่เฟดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะถดถอยลงหรือ GDP -6.5% ในปีนี้ หลังไตรมาสแรก -5.0% โดยคาดการณ์อัตราว่างงานที่ 9.3% ในช่วงท้ายปีนี้ หลังก่อนหน้านี้อยู่ทีระดับ 13.3% เป็นต้น สรุปโดยภาพรวมก็คือ ทั้งดัชนีหุ้นสหรัฐฯ และ $ ถูกเทขายลงต่อเนื่อง ในขณะที่พันธบัตรฯและทองคำได้รับอานิสงส์ต่อนั่นเอง
สรุปภาพรวมตลาดวันนี้
ส่วนในวันนี้ ดัชนีหุ้นสหรัฐฯได้รูดลงต่อเนื่องจากเมื่อวานและได้ส่งผลบวกต่อค่าเงิน$ ในเบื้องต้นในฐานะสกุลเงินที่ปลอดภัย โดยที่ส่งให้ราคาทองมีการปรับลงก่อนตามปรกติทางเทคนิค โดยการรูดลงอย่างมีนัยสำคัญของดัชนีหุ้นสหรัฐฯได้กระตุ้นให้บรรดานักข่าว นักวิเคราะห์เริ่มจุดประเด็นดังที่ได้กล่าวไป คือจากมุมมองที่ไม่ค่อยดีนักของเฟด โดยใช้ศัพท์กันว่า dour บ้าง gloomy บ้าง และเสริมด้วยความกังวลของการแพร่ระบาดระลอกสองหรือที่พูดกันว่า second wave โดยในรัฐเท็กซัสของสหรัฐฯได้กลับมีตัวเลขผู้ติดเชื้อและเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมากขึ้นอย่างก้าวกระโดดหลังการผ่อนคลายหรือ reopening รวมถึงในหลายๆเขตในรัฐแคลิฟอร์เนียด้วย โดยรอบนี้ตลาดพันธบัตรฯกลับมาได้รับความดึงดูดเป็นพิเศษรวมถึงทองคำด้วยรองลงมา เนื่องจากไม่ได้มีผลตอบแทนอะไรให้ในการถือครอง โดยคืนนี้ก็จะมีการประกาศตัวเลขสหรัฐที่สำคัญให้ติดตามและเข้าลงทุนกันโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ในสหรัฐฯนั่นเอง ซึ่งมาคราวนี้ยังคงถูกคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าต่อเนื่อง ซึ่งคงต้องมาดูว่าถ้าเป็นไปตามการคาดการณ์จริง ตัวไหนจะโดดเด่นและเตะตากรรมการมากที่สุด หลังเฟดมีมุมมองที่เพี้ยนจากความเป็นเฟดไป ซึ่งได้ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นไปบ้าง แต่ในที่สุด ความจริงก็คือความจริง มองภาพปัจจุบันให้แม่นก็พอ อย่าได้ไปคาดหวังอะไรมากจากเฟด ก็แค่เดาๆ ไม่ได้มีใครสามารถคาดการณ์เหตุการณ์ข้างหน้าได้อย่างแม่นยำเป๊ะหรอก