ข่าวการตลาด
รู้หรือไม่ว่า ดัชนีหลักในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา มีอะไรบ้าง - ZFX

รู้หรือไม่ว่า ดัชนีหลักในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา มีอะไรบ้าง

11-08-2022 15:52

The Knowledge Of This Week 

ได้แต่เคยได้ยินคนอื่นๆ เรียก ตลาดหุ้นสหรัฐฯ 

 แต่ก็ยังไม่รู้สักทีว่ามันคืออะไร หรือ เป็นหุ้นของบริษัทใด 

แล้วทำไม คนถึงให้ความสนใจกันมากนัก  

ยิ่งในกลุ่มของนักลงทุนที่เทรดหุ้นกันเป็นประจำ 

วันนี้ ZFX จะมีเล่าข้อมูลเกี่ยวกับดัชนี 3 ดัชนีหลักในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ว่าประกอบไปด้วยดัชนีใดบ้าง และมีองค์ประกอบของบริษัทไหน อย่างไร! 

ดัชนีหลักในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา หรือที่เรารู้จักกันจะมีทั้งหมด 3 ดัชนีด้วยกันหลักๆ คือ 

  • Dow Jones 
  • NASDAQ 100 
  • S&P 500 

แล้วทั้ง 3 ดัชนี Dow Jones, NASDAQ 100 และ  S&P 500 มันคือหุ้นของอะไร? 

อย่างแรกเลย เรามาทำความรู้จักกับทั้ง 3 ตัวก่อน 

1.Dow Jones 

ดัชนีที่เคลื่อนไหวหรืออ้างอิงตามแนวโน้มดัชนีหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ 30 แห่งซึ่งแต่ละบริษัทถือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมพื้นฐาน ที่ซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) และ NASDAQ  

และทั้ง 30 บริษัทถือว่าเป็นผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่ ที่นักลงทุนกำหนดให้เป็นกลุ่มของบริษัท Blue Chip ที่มีผลกำไรที่มั่นคงอย่างต่อเนื่อง 

แล้ว Blue Chip คืออะไร? 

Blue Chip หรือเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า Blue Chip Stock  

ซึ่งจะถูกใช้เรียกแทนดัชนี หรือชื่อเมื่อนักลงทุน จะพูดถึง 30 บริษัทขนาดใหญ่ในดัชนี Dow Jones 

โดยจะมีทั้งหมด 30 บริษัทได้แก่ 

  1. Apple Inc 

  1. Amgen Inc 

  1. American Express Co 

  1. Boeing Co 

  1. Caterpillar Inc 

  1. Salesforce.com Inc 

  1. Cisco Systems Inc 

  1. Chevron Corp 

  1. Walt Disney Co 

  1. Dow Inc 

  1. Goldman Sachs Group 

  1. Home Depot Inc 

  1. Honeywell International 

  1. Inter Corp 

  1. Johnson & Johnson 

  1. Verizon Communications 

  1. International Business Machines 

  1. Walgreens Boots Alliance 

  1. JPMorgan Chase 

  1. Coca-Cola 

  1. McDonald’s Corp 

  1. 3M Co 

  1. Merck & Co Inc 

  1. Microsoft Corp 

  1. NIKE Inc 

  1. Procter & Gamble 

  1. Travelers Cos Inc 

  1. UnitedHealth Group Inc 

  1. Visa Inc 

  1. Walmart Inc 

2.NASDAQ 100 

ดัชนีที่เคลื่อนไหวหรืออ้างอิงตามแนวโน้มดัชนีหุ้นของ 100 บริษัทขนาดใหญ่  ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนบนตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก โดยดัชนี NASDAQ 100 ไม่มีหุ้นในกลุ่มสถาบันการเงินทั้งในและนอกประเทศ 

โดยบริษัทที่อยู่ในกลุ่ม ถือว่าเป็นผู้นำในด้านบริษัทเกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆ เช่น ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ และยังรวมถึงบริษัทด้าน สื่อสารโทรคมนาคม เทคโนค้าปลีก และผลิตชิพ เป็นต้น 

โดยส่วนแบ่งตลาดใน NASDAQ 100 มีดังนี้ 

  • Apple  –  13.14% 
  • Microsoft Corp  – 10.27% 
  • Amazon.com –  6.54% 
  • Resla Inc – 4.43% 
  • Alphabet Class A – 3.60% 
  • Alphabet Class C – 3.43% 
  • NVIDIA Corp  – 3.18% 
  • Meta Platforms – 3.04% 
  • Pepsi CO – 2.07% 
  • Costco Wholesale – 2.06% 
  • Other –  48.25% 

หรือดังภาพด้านล่าง 

รู้หรือไม่ว่า ดัชนีหลักในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา มีอะไรบ้าง - ZFX

3.S&P 500 

ดัชนีที่เคลื่อนไหวหรืออ้างอิงตามแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นที่ติดตามหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ในสหรัฐจำนวน 500 บริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมต่างๆ ของสหรัฐ ซึ่งจะถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือ Market Cap 

โดยจะมีบริษัทหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ด้านเทคโนโลยี, การบริการ, ด้านสุขภาพ, การเงิน, บริการการสื่อสาร และสินค้าอุปโภคบริโภคชนิดฟุ่มเฟือย เป็นต้น 

และจะมีส่วนแบ่งในตลาด ดังนี้ 

  • Apple 7.03% 
  • Microsoft 5.79% 
  • Amazon.com 3.17% 
  • Tesla 2.02% 
  • Alphabet Class A 1.93% 
  • Alphabet Class C 1.78% 
  • Berkshire Hathaway 1.56% 
  • UnitedHealth  Group Incorporated 1.49% 
  • Johnson & Johnson 1.36% 
  • NVIDIA Corporation 1.27% 
  • Other 72.59% 

หรือดังภาพด้านล่าง 

รู้หรือไม่ว่า ดัชนีหลักในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา มีอะไรบ้าง - ZFX

เอาละ! ทีนี้เราก็รู้แล้วว่าอะไรคือ 3 ดัชนีหลักในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา และมีองค์ประกอบของบริษัทใดบ้าง 

ทีนี้…เมื่อเราลงทุนในตลาดหุ้น 3 ดัชนีนี้ อย่างน้อยๆ เราก็สามารถจำแนกได้แล้วว่า ดัชนีที่เราลงทุนนั้น อยู่ในหมวดหมู่ของบริษัทอะไร ซึ่งสิ่งนี้ชอบอะไรเราได้บ้าง? 

แน่นอนว่าช่วย! 

เมื่อเรารู้แล้วว่าแต่ละดัชนีคือกลุ่มบริษัทใด เราก็สามารถดูแนวโน้มของตลาดกลุ่มบริษัทนั้นๆได้ และสามารถวิเคราะห์ผลกระทบต่างๆตาม ไตรมาส/ปีนี้ หรือการเติบโตเป็นอย่างไรได้ 

ยกตัวอย่างเช่น 

สถานการณ์ NASDAQ 100 มีแนวโน้มถูกกดดันเนื่องจากผลกระทบจากการที่ตลาดมีการขาดแคลน “ชิป” ระยะยาวในช่วงไตรมาสที่ผ่านมาทำให้หลายๆบริษชั้นนำ ด้านเทคโนโลยี, ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ และ ซอฟต์แวร์ ฯลฯ  โดนผลกระทบไปด้วย ซึ่งทำให้บริษัทเหล่านี้ไม่สามารถเร่งผลิต หรือสร้างเทคโนโลยีต่างๆ หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆได้ ซึ่งเป็นปัจจัยทำให้มีผลต่อการเติบโตหรือผลประกอบการหดตัวลงในช่วงเวลานั้นๆ 

และเมื่อเรารู้แล้วว่า ดัชนี NASDAQ 100 โดนกดดันเนื่องจากปัจจัยเหล่านี้  และยังมีแนวโน้มที่จะยังไม่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้เร็ววัน ทำให้เป็นปัจจัยหรืำข้อมูลส่วนนี้ไปวิเคราะห์หาแนวโน้มจุดเข้าและออกออเดอร์ในตลาดนั้นๆ ก็ได้ 

================================ 

ZFX Thailand  

================================  

📢 ถ้าไม่อยากOut! อยากติดตามข่าวสำคัญ และแนวโน้มทองคำรายวัน แอดไลน์ ZFX ไว้ได้เลยที่   

Line Official Account: https://zfx.link/3eR7C4E  

=================================  

เปิดบัญชีจริงกับ ZFX แล้วเริ่มเทรดหุ้นต่างประเทศ สกุลเงิน และ ดัชนีชั้นนำมากมาย กับเราได้เลยที่ https://zfx.link/THwebWAregister พร้อมรับโปรโมชั่นมากมาย!  

=================================  

#เทรดฟอเร็กซ์ #forex #Trading #Stock #investment #ZFX #ZFXTH #USD #Knowledge  #หุ้น #ตลาดหุ้น  #US  #เศรษฐกิจ #การเงิน ##ลงทุน  #กองทุน #มือใหม่ #ข่าว  #วิเคราะห์ #ข่าวเศรษฐกิจทั่วโลก #ข่าวทั่วโลก  #หุ้น #สหรัฐฯ #สหรัฐ #DowJones #NASDAQ100 #BlueChip #BlueChipStock #S&P500