สรุปข่าวสำคัญประจำวันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม 2565
1. * วันที่ 4 กรกฎาคมเป็นวันประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกา ตลาดสหรัฐปิดทำการชั่วคราว
ดังนั้น นักลงทุนควรระวังเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคากราฟคู่สกุลเงินและสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง
ที่อาจขาดปัจจัยสนับสนุนการเคลื่อนไหวจากทางตลาดสหรัฐฯ
2.** จับตาการเคลื่อนไหวของรัสเซีย ที่อาจจะปรับรายชื่อสินค้า /เงื่อนไขสินค้าส่งออกเพิ่ม และจับตาการเคลื่อนไหวที่อาจปรับลดอัตราการผลิตน้ำมัน เพื่อตอบโต้การคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก
รัสเซียเพิ่มสินค้าเกษตรหลายอย่าง เข้าสู่กลุ่มรายชื่อสินค้าส่งออกที่ต้องจ่ายเป็นเงินรูเบิล เช่น ธัญพืช น้ำมันดอกทานตะวัน และเมล็ดพืชน้ำมัน
โดยกลไกลการชำระด้วยเงินรูเบิลของรัสเซีย ทำให้การคำนวณราคาสินค้าในขณะนี้ อย่างข้าวสาลี อยู่ที่ตันละ 15,000 รูเบิล หรือราว 9,358 บาท
และน้ำมันดอกทานตะวัน อยู่ที่ตันละ 82,500 รูเบิล หรือราว 51,471 บาท ส่วนราคาข้าวบาร์เลย์ และข้าวโพด ปรับเปลี่ยนเป็นตันละ 13,875 รูเบิล หรือราว 8,656 บาท
ในขณะที่การดำเนินมาตรการต่างๆ ทำให้เงินรูเบิลแข็งค่ามากที่สุดสุดในรอบ 7 ปี อยู่ที่ 51.8 รูเบิลต่อดอลลาร์สหรัฐฯ นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2015 (เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา 28 มิถุนายน )
3.** จับตาการเคลื่อนไหวเพิ่มเติมของธนาคารกลาง หลังรายงานว่า เงินเฟ้อในเขตยูโร ปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง และเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ ปี 1999
โดยอัตราเงินเฟ้อในเขตยูโรปรับตัวสูงขึ้น สู่ 83.6% ใน เดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา
ซึ่งนับเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1999 โดยตลาดคาดการณ์ว่า การปรับตัวสูงขึ้นของเงินเฟ้อ
สืบเนื่องมาจากปัจจัยความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงการคว่ำบาตรรัสเซียของสหรัฐฯ
และชาติตะวันตก ส่งผลกระทบต่อตลาดราคาอาหาร
และราคาพลังงาน โดยราคาพลังงานได้ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ที่41.9%
ในเดือนมิถุนายน เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ที่ 39.1%
ในขณะที่ก่อนหน้านี้ ในช่วงปลายเดือน พฤษภาคม เหล่าผู้นำสหภาพยุโรป ได้ลงมติเห็นชอบการคว่ำบาตรรัสเซีย
โดยมีเนื้อหา ห้ามนำเข้าน้ำมัน (ปิโครเลียม)หรือสินค้าต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง สูงถึง 90% ในช่วงสิ้นปีนี้
ซึ่งเป็นปัจจัยส่วนหนึ่งที่ทำให้ราคาพลังงานในเขตยูโรปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เพราะ สมาชิก
ใน 27 ประเทศ ได้พิ่งพาน้ำมันรัสเซีย มากถึง 30%
แต่การคว่ำบาตรัสเซียทำให้ ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น
และปัจจุบัน ตลาดจับตาและรอคอยการเคลื่อนไหวธนาคารกลางยุโรป หลังมีแรงกดดดันจากตัวเลขเงินเฟ้อในเดือนมิถุนายน
ที่อาจเป็นปัจจัย ทำให้ธนาคารกลางยุโรป เตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใน การประชุมนโยบายการเงินที่จะมีขึ้นในกลางเดือนนี้
โดย ตลาดคาดการณ์ว่า มีแนวโน้มที่ธนาคารกลางจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินกลางเดือน
#MarketNews #ZFX #ZFXThailand