สรุปข่าวสำคัญประจำวันพุธที่ 6 กรกฎาคม 2565
1.** เซี่ยงไฮ้ระดมตรวจโควิดขนานใหญ่ หวั่นล็อกดาวน์รอบใหม่ฉุดเศรษฐกิจ
นครเซี่ยงไฮ้ของจีนเริ่มดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชนจำนวนมากอีกรอบ ซึ่งสร้างความกังวลว่าเซี่ยงไฮ้จะกลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดตามนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Covid Zero) สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลเซี่ยงไฮ้ได้ออกแถลงการณ์ว่า พื้นที่ 9 เขตจากทั้งหมด 16 เขต ของเซี่ยงไฮ้ รวมถึงบางพื้นที่ในอีก 3 เขต จะดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 สองรอบไปจนถึงวันพฤหัสบดีนี้ (7 ก.ค.) เพื่อค้นหาและป้องกันความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดโดยเร็วที่สุด ส่วนยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันอังคาร (5 ก.ค.) อยู่ที่ 24 ราย โดยทั้งหมดเข้าสู่สถานที่กักตัวแล้ว
แถลงการณ์ยังระบุว่า เซี่ยงไฮ้พบผู้ติดเชื้อหลายรายในวันอาทิตย์และวันจันทร์ โดยสถานที่แห่งหนึ่งในเขตผูโถ่ว (Putuo) ได้ถูกจัดให้เป็นสถานที่ความเสี่ยงสูง เนื่องจากเชื่อมโยงกับประวัติการเดินทาง โดยพบบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงที่เชื่อมโยงกับสถานที่ดังกล่าวได้เดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในหลายเขตของเซี่ยงไฮ้ จึงก่อให้เกิดความเสี่ยงที่ไวรัสจะแพร่ระบาดไปทั่ว ทั้งนี้ นครเซี่ยงไฮ้เพิ่งฟื้นตัวหลังเผชิญกับการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดเป็นเวลา 2 เดือน
ซึ่งสร้างแรงกดดันอย่างหนักต่อประชาชนและเศรษฐกิจจากการใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ ซึ่งทำให้จีนต้องติดอยู่กับวงจรของการปิดธุรกิจและกลับมาเปิดใหม่ โดยนำไปสู่สัญญาณบ่งชี้ถึงความเสียหายทางเศรษฐกิจที่ยังคงยืดเยื้อ แนวทางโควิดเป็นศูนย์ยังส่งผลให้จีนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า จีนจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตในปีนี้ได้ เนื่องจากการล็อกดาวน์ได้สร้างความเสียหายต่อห่วงโซ่อุปทานโลก
และกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างโซนี่ กรุ๊ป และเทสลา ขณะที่จีนเองก็มีแนวโน้มที่จะยังไม่เปลี่ยนแปลงแนวทางดังกล่าวในเร็ว ๆ นี้
2.* บอริส จอห์นสัน จ่อถูกสภาอังกฤษซักฟอก หลังรัฐมนตรีลาออกเหตุไม่พอใจบทบาทนายกฯ
นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษเตรียมเข้าชี้แจงต่อรัฐสภาอังกฤษในวันนี้ (6 ก.ค.) เพื่อตอบข้อซักถามของสมาชิกรัฐสภาอาวุโส หลังจากรัฐมนตรีหลายคนในคณะรัฐบาลของนายจอห์นสันประกาศลาออกเนื่องจากไม่พอใจในการทำหน้าที่ผู้นำของนายจอห์นสัน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายริชิ ซูแนค รัฐมนตรีคลังอังกฤษ และนายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีสาธารณสุข ได้พร้อมใจกันยื่นใบลาออกจากตำแหน่งต่อนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษเมื่อวานนี้ (5 ก.ค.) และยังมีรัฐมนตรีช่วยอีกหลายคนที่ประกาศลาออก โดยพวกเขากล่าวว่าไม่สามารถทำงานในรัฐบาลชุดนี้ได้อีกต่อไป
เนื่องจากมีข่าวอื้อฉาวมากมายเกิดขึ้นในคณะบริหารของนายจอห์นสันในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรคอนุรักษ์นิยมของนายจอห์นสันเปิดเผยว่า เวลาของนายจอห์นสันได้หมดลงแล้ว แต่เขาก็ยังแสดงความต้องการที่จะรั้งตำแหน่งในคณะรัฐบาลด้วยการแต่งตั้งนายนาดฮิม ซาฮาวี อดีตรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังคนใหม่ และแต่งตั้งบางคนให้เข้ามารับตำแหน่งที่ยังว่างอยู่ ทั้งนี้ คาดว่าจะมีสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมประกาศตัวเป็นปรปักษ์กับนายจอห์นสันมากขึ้น
เมื่อเขาเข้าชี้แจงต่อรัฐสภาเพื่อตอบข้อซักถามตามวาระรายสัปดาห์ ก่อนที่เขาจะเผชิญกับการถูกซักฟอกจากประธานคณะกรรมาธิการรัฐสภาเป็นเวลา 2 ชั่วโมง เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษสังกัดพรรคอนุรักษ์นิยมได้จัดการประชุมเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายจอห์นสัน ท่ามกลางความไม่พอใจของประชาชนและสมาชิกรัฐสภาต่อการที่รัฐบาลอังกฤษจัดงานเลี้ยงสังสรรค์หลายครั้งที่บ้านพักนายกรัฐมนตรีในช่วง 2 ปีที่อังกฤษมีการประกาศมาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
อย่างไรก็ดี ผลการลงมติปรากฏว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคอนุรักษ์นิยมจำนวน 211 คนลงมติไว้วางใจนายจอห์นสัน ขณะที่สมาชิกอีก 148 คนลงมติไม่ไว้วางใจ ซึ่งหากนายจอห์นสันพ่ายแพ้ในการลงมติครั้งนั้น เขาจะต้องลาออกจากตำแหน่งผู้นำพรรค และตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยนายจอห์นสันจะไม่มีสิทธิ์ลงสมัครแข่งขันอีก หากเขาเป็นผู้นำที่ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง
3.** สหราชอาณาจักร (United Kingdom)เตรียมคว่ำบาตรเศรษฐกิจ การค้าของเบลารุส และสื่อรัสเซียที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จ
รัฐบาลสหราชอาณาจักร แถลงว่า จะเพิ่มการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ การค้า และการขนส่งต่อเบลารุส เนื่องจากเบลารุส สนับสนุนรัสเซียบุกยูเครน และจะคว่ำบาตรชาวรัสเซีย 6 คน ที่เกี่ยวข้องกับการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ การคว่ำบาตรเบลารุสรอบนี้ จะรวมถึงการห้ามนำเข้าและส่งออกสินค้ามูลค่า 60 ล้านปอนด์ หรือ ราว 2,614 ล้านบาท ซึ่งรวมถึงการห้ามส่งออกสินค้าน้ำมันที่กลั่นแล้ว, ส่วนประกอบของเทคโนโลยีล้ำยุค และสินค้าฟุ่มเฟือย ตลอดจนห้ามนำเข้าเหล็กและเหล็กกล้าจากเบลารุสขณะเดียวกัน สหราชอาณาจักรจะห้ามบริษัทของเบลารุสออกตราสารหนี้ในกรุงลอนดอน
รัฐบาลสหราชอาณาจักรกล่าวหารัฐบาลเบลารุส ให้การสนับสนุนรัสเซียบุกยูเครน ด้วยการให้รัสเซียใช้ดินแดนเป็นฐานปฏิบัติการทางทหารและโจมตียูเครน รวมถึงให้เครื่องบินขับไล่รัสเซียผ่านน่านฟ้าอีกด้วย ไม่เพียงแค่นั้น สหราชอาณาจักรได้เพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าต่าง ๆ จากเบลารุสอีก 35% และคว่ำบาตรประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก และเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกหลายคนของเบลารุส นอกจากนี้ สหราชอาณาจักรยังคว่ำบาตรชาวรัสเซีย 6 คน ซึ่งกระทรวงการคลัง ระบุว่า ชาวรัสเซียเหล่านี้ เกี่ยวข้องเว็บไซต์ SouthFront และ NewsFront ที่สหราชอาณาจักร ระบุว่า เผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับเรื่องยูเครน และสนับสนุนรัฐบาลรัสเซียบุกยูเครน
อย่างไรก็ตาม สหราชอาณาจักรยังคว่ำบาตร United World International สื่อออนไลน์ที่ส่งเสริมการบิดเบือนข้อมูลของรัสเซียด้วยเช่นกัน
ข้อมูลอ้างอิงจาก – infoquest / TNN World /Reuters / CNN News / BBC News
#MarketNews #ZFX #ZFXThailand