ดอลลาร์สหรัฐฯ ยังแข็งค่า กดดันทองคำอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยข้อมูลตัวเลขดัชนีเดือนก.ย. ออกมาดีกว่าคาดการณ์: สรุปข่าว 10 ต.ค. 65
เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯเปิดเผยข้อมูลการจ้างงาน นอกภาคเกษตรเดือนก.ย. ที่ออกมาดีกว่าตลาดคาดการณ์ ประกอบกับอัตราการว่างงาน ก็ดีกว่าที่ตลาดคาดเช่นกัน
ข่าว Forex วันนี้
1.**ทองคำยังถูกกดดันจากปัจจัยดอลลาร์แข็งค่า!
เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯเปิดเผยข้อมูลการจ้างงาน นอกภาคเกษตรเดือนก.ย. ที่ออกมาดีกว่าตลาดคาดการณ์ ประกอบกับอัตราการว่างงาน ก็ดีกว่าที่ตลาดคาด เช่นกัน จึงส่งผลให้ดอลลาร์ สหรัฐฯ ปรับตัวแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ เป็นปัจจัยที่กดดันราคาทองคำอย่างต่อเนื่องจนถึงวันจันทร์ ซึ่งทำให้ตลาดมีแนวโน้มมุมมองการเร่งขึ้นดอกเบี้ยหรือนโยบายการเงินเชิงรุกต่อไป หากต้องการสกัดเงินเฟ้อ (กรณีเงินเฟ้อยังสูงกว่าที่คาดหวัง)
“เมื่อวันศุกร์ สหรัฐฯรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงาน ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ ดอลลาร์จึง แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ แต่วันนี้คาดว่าการซื้อขายจะเบาบาง เพราะหลายตลาดปิดทำการ เช่น ญี่ปุ่น มาเลเซีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน”
นักบริหารเงิน ระบุ
2.** “เยลเลน”จวกแผนลดการผลิตน้ำมันของโอเปกพลัส ไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโลก
นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐให้ความเห็นว่า การตัดสินใจปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกพลัสนั้น “ไม่เหมาะสมและไม่เป็นผลดี” ต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มตลาดเกิดใหม่
นางเยลเลนให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สวันนี้ (9 ต.ค.) ว่า “เรามีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับบรรดาประเทศกำลังพัฒนาและปัญหาที่พวกเขาต้องเผชิญ”
นอกจากนี้ นางเยลเลยยังได้ตำหนิเหล่าชาติพันธมิตรที่ให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ยูเครนได้อย่างล่าช้า โดยกล่าวว่า “การส่งเงินสนับสนุนให้แก่ยูเครนนั้นล่าช้าเกินไป” และชี้ให้เห็นว่า บางประเทศที่ให้คำมั่นว่าจะให้ความช่วยเหลือนั้นยังไม่ได้ดำเนินการเบิกจ่ายเลย
3.** อัปเดตข่าว สถานการณ์ ไต้หวัน,จีน ,รัสเซีย และ ยูเครน
ไต้หวันบอกจีน การใช้อาวุธเข้าปะทะกันไม่ใช่ทางเลือกอย่างเด็ดขาด
โดย สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ของไต้หวัน เปิดเผยว่า การใช้อาวุธเข้าปะทะกันระหว่างไต้หวันกับจีนนั้นไม่ใช่ทางเลือกอย่างเด็ดขาด พร้อมให้คำมั่นที่จะเพิ่มกำลังทหารเพื่อการป้องกันไต้หวันและย้ำว่าเต็มใจที่จะพูดคุยกับจีน
นางไช่กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันชาติว่า “ฉันต้องการชี้แจงต่อทางการจีนว่า การใช้อาวุธเข้าปะทะกันไม่ใช่ทางเลือกสำหรับทั้งสองฝ่ายโดยเด็ดขาด มีเพียงแต่การเคารพในความมุ่งมั่นของชาวไต้หวันที่มีต่ออธิปไตย ประชาธิปไตย และเสรีภาพของเราเท่านั้นที่จะสามารถเป็นรากฐานสำหรับการกลับมามีปฏิสัมพันธ์เชิงสร้างสรรค์ตลอดแนวช่องแคบไต้หวันต่อไป”
ในขณะเดียวกันทาง ฝั่งจีนยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆเกี่ยวกับ ไต้หวันเพิ่มเติม แต่ สำนักข่าวบลูมเบิร์กนำเสนอรายงานของสำนักข่าวซินหัว
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนได้จัดการประชุมร่วมกับกลุ่มผู้นำระดับสูงของจีนเมื่อวานนี้ (9 ต.ค.) ก่อนที่การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 16 ต.ค.นี้ ซึ่งคาดว่าปูทางให้เขาดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของจีนเป็นสมัยที่ 3
โดยระบุว่า การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นในกรุงปักกิ่ง ประกอบด้วยสมาชิกหลักและสมาชิกสำรองของคณะกรรมการกลางพรรคฯ ประมาณ 370 คน
ปธน.สีร่างสุนทรพจน์ที่จะกล่าวในตอนเริ่มการประชุมในวันที่ 16 ต.ค.นี้ โดยเป็นคำแถลงนโยบายที่มีความสำคัญสูงสุดสำหรับจีนในการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 7 ซึ่งจัดขึ้นทุก ๆ 5 ปี
ซินหัวระบุว่า นายหวัง ฮู่หนิง สมาชิกคณะกรรมการโปลิตบูโรถาวร อธิบายถึงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคคอมมิวนิสต์ นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า ปธน.สียังนำเสนอรายงานการทำงานในนามของโปลิตบูโรอีกด้วย
การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นแบบไม่เปิดเผยรายละเอียดต่อสาธารณชน โดยหลังการประชุมครั้งนี้เสร็จสิ้น มีแนวโน้มว่าจะมีแถลงการณ์ที่ประกาศว่าสุนทรพจน์ของปธน.สีและการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ถูกส่งไปยังรัฐสภาของพรรคฯ เรียบร้อยแล้ว
การประชุมใหญ่ครั้งนี้มีแนวโน้มว่าปธน.สีจะได้ดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของจีนเป็นสมัยที่ 3 ซึ่งเป็นการท้าทายธรรมเนียมปฏิบัติดั้งเดิมที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ด้วยการคงอยู่ในอำนาจนานเกิน 2 วาระ และเกินอายุเกษียณที่ 68 ปี
ในส่วนด้าน รัสเซียและยูเครน เหตุการณ์ระเบิดสะพานไครเมีย รัสเซียออกมากล่าวว่า เหตุการณ์นี้ ยูเครน อาจอยู่เบื้องหลัง!
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวโทษยูเครนว่าเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีสะพานเคิร์ชในไครเมีย ซึ่งเป็นสะพานสำคัญที่เชื่อมดินแดนระหว่างไครเมียและรัสเซีย โดยการแสดงความเห็นดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่ากองทัพรัสเซียกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก นับตั้งแต่เปิดฉากทำสงครามกับยูเครนขึ้นเมื่อ 8 เดือนที่แล้ว
ปธน.ปูตินกล่าวในการประชุมกับนายอเล็กซานเดอร์ บาสตรีกิน ประธานคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนของรัสเซียว่า “ผู้วางแผน ผู้ลงมือ ผู้สั่งการในปฏิบัติการครั้งนี้คือหน่วยสืบราชการลับของยูเครน” ซึ่งนายบาสตรีกินเองก็มีความเห็นไปในทางเดียว นอกจากนี้ ปธน.ปูตินกล่าวว่า ชาวรัสเซียบางกลุ่มร่วมกับรัฐบาลต่างชาติบางประเทศให้การช่วยเหลือยูเครนในการก่อวินาศกรรมในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ยูเครนไม่ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุระเบิดสะพานดังกล่าวซึ่งมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ และเคยถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของการยึดครองดินแดนยูเครนอย่างถาวรของรัสเซีย
ทั้งนี้ สะพานเคิร์ชมีความยาว 19 กิโลเมตร (12 ไมล์) ทอดยาวข้ามช่องแคบเคิร์ช และเป็นโครงการที่สำคัญของปธน.ปูตินภายหลังการผนวกดินแดนคาบสมุทรไครเมียในปี 2557 โดยปธน.ปูตินเป็นผู้ทำพิธีเปิดสะพานโดยขับรถบรรทุกข้ามสะพานด้วยตนเอง
ทางกระทรวงกลาโหมของอังกฤษได้ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า “เหตุการณ์ในครั้งนี้สร้างความสะเทือนใจให้กับปธน.ปูตินเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงต่อมาหลังวันครบรอบวันคล้ายวันเกิดอายุ 70 ปีของเขา และตัวเขาก็เป็นผู้สนับสนุนหลักและเป็นผู้เปิดสะพานแห่งนี้ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ ผู้รับเหมาก่อสร้างในโครงการนี้ยังเป็นเพื่อนสมัยเด็กของเขาอีกด้วย”
*****************************
อ่านข่าวรวม กดที่ลิ้งค์ : /th/market-news/
*****************************
ข้อมูลอ้างอิง – infoquest / Reuters / Bloomberg News / Investing
#MarketNews #ZFX #ZFXThailand #US #USD #เงินเฟ้อ #Gold #ทอง #เงินเฟ้อ #อัตราเงินเฟ้อ #Investing #Bloomberg #Forexวันนี้ #ทองคำวันนี้ #แนวโน้ม #อัตราดอกเบี้ย #ดอกเบี้ย #ดบ. #สงคราม #war #Taiwan #China #ไต้หวัน #จีน #รัสเซีย #ยูเครน #OPEC #OPEC+ #WTI #พลังงาน #น้ำมัน #ราคาน้ำมัน #ราคาน้ำมันวันนี้