สรุปข่าวสำคัญประจำวันพุธที่ 13 กรกฎาคม 2565
1.**IEA เผยการจำกัดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียควรรวมน้ำมันกลั่นสำเร็จรูปด้วย!
นายฟาตีห์ ไบรอล ผู้อำนวยการบริหารขององค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) เปิดเผยว่า ข้อเสนอของกลุ่ม G7 สำหรับการจำกัดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียควรรวมน้ำมันกลั่นสำเร็จรูปด้วยเช่นกัน
รายงานระบุว่า กลุ่มประเทศ G7 กำลังพิจารณาที่จะกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียเพื่อมุ่งรักษาปริมาณน้ำมันและควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ขณะเดียวกันก็เป็นการขวางไม่ให้รัสเซียนำรายได้จากการขายน้ำมันไปเป็นทุนสนับสนุนการทำสงครามในยูเครน
นายไบรอลให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์นอกรอบการประชุมพลังงานซิดนีย์ว่า “ความหวังของผมคือข้อเสนอดังกล่าว ซึ่งมีส่วนสำคัญในการบรรเทาผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก จะได้รับการเห็นชอบจากหลายประเทศ”
นอกจากนี้ นายไบรอลเสริมว่า “และหากดำเนินต่อไป ก็ไม่ควรมุ่งจำกัดแต่เฉพาะน้ำมันดิบเท่านั้น เนื่องจากน้ำมันกลั่นสำเร็จรูปก็นับเป็นปัญหาที่สำคัญต่อเศรษฐกิจเช่นกัน และจะเป็นปัญหามากขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า”
ทั้งนี้ ราคาของผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการกลั่น เช่น น้ำมันเบนซินและดีเซล ปรับตัวสูงกว่าน้ำมันดิบ ท่ามกลางการสูญเสียปริมาณน้ำมันจากรัสเซีย เนื่องจากกำลังการกลั่นทั่วโลกปรับตัวลดลงภายหลังจากการปิดโรงงานหลายแห่งทั่วโลก
2.*ผู้นำยูเครนเตือนยุโรปให้เตรียมรับมือ รัสเซียอาจตัดการส่งก๊าซทั้งหมด
ประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกีแห่งยูเครนเปิดเผยว่า ยุโรปจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะตัดการส่งก๊าซทั้งหมดให้กับยุโรป
ปธน.เซเลนสกีโพสต์ข้อความผ่านแอปเทเลแกรมว่า “รัสเซียไม่เคยเล่นตามกฎด้านพลังงาน และจะไม่เล่นในตอนนี้ ถ้าไม่เห็นถึงความแข็งแกร่ง”
ปธน.เซเลนสกีระบุว่า “ไม่ต้องสงสัยเลยว่า รัสเซียจะไม่เพียงแต่พยายามจำกัดการส่งก๊าซให้มากที่สุด แต่ยังจะยุติการส่งก๊าซไปยังยุโรปโดยสิ้นเชิงด้วย” พร้อมเสริมว่า “นี่คือสิ่งที่เราต้องเตรียมพร้อมในตอนนี้”
ทั้งนี้ รัสเซียได้ระงับการจัดส่งก๊าซไปยังเยอรมนีผ่านท่อส่งก๊าซนอร์ด สตรีม 1 (Nord Stream 1) เพื่อดำเนินการซ่อมบำรุงรักษาตามกำหนดประจำปี ซึ่งแผนการดังกล่าวได้สร้างความกังวลว่า รัสเซียอาจยืดระยะเวลาในการดำเนินการดังกล่าว และจะทำให้การส่งก๊าซไปยังเยอรมนีล่าช้าออกไป
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า รัสเซียเริ่มดำเนินการซ่อมบำรุงท่อส่งก๊าซดังกล่าวในวันจันทร์ (11 ก.ค.) และคาดว่าจะระงับการส่งก๊าซไปจนถึงวันที่ 21 ก.ค. โดยบรรดารัฐบาล ตลาด และบริษัทต่าง ๆ กังวลว่า รัสเซียอาจขยายระยะเวลาปิดท่อส่งก๊าซดังกล่าว อันเนื่องมาจากการทำสงครามในยูเครน
3.*สหภาพยุโรปปรับลดคาดการณ์การเติบโต ขณะที่ เงินยูโรอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 20 ปี!!
สหภาพยุโรป หรือ อียู ปรับลดคาดการณ์การเติบโต ขณะที่ เงินยูโรอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 20 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ
คณะกรรมาธิการยุโรป ประกาศว่า จะปรับลดคาดการณ์การเติบโตประจำปีอีกครั้งในปีนี้ อันเป็นผลมาจากปัญหาหลายอย่าง รวมถึงภาพรวมภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น นับเป็นครั้งที่ 2 ของปี 2022 ที่คณะผู้บริหารของสหภาพยุโรป หรือ อียู ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยอ้างราคาพลังงานที่แพงขึ้น และเงินเฟ้อพุ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่อียู บอกว่า เศรษฐกิจชะลอตัวไปจนถึงปีหน้า
วัลดิส โดมโบรฟสกิส รองประธานฝ่ายบริหารของคณะกรรมาธิการยุโรป เปิดเผยว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ แสดงถึงความยืดหยุ่น แต่คาดการณ์ถึงแนวโน้มลดลง และลดลงไปอีกในปีหน้า เนื่องจากเกิดความเสี่ยงและความไม่แน่นอนมากมาย
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนพฤษภาคม คณะกรรมาธิการยุโรป ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทั้งในสหภาพยุโรปและเขตยูโร อยู่ที่ 2.7% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 4.0% เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และจะเหลือ 2.3% ปีหน้า จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.8% ขณะที่ เงินเฟ้อในอียูพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 25 ปี อยู่ที่ 8.6% เมื่อเดือนมิถุนายน
ส่วนข้อมูลจากตลาดหุ้นแฟรงค์เฟิร์ตในเยอรมนี ระบุว่า เงินยูโรดิ่งลงต่ำสุดอยู่ที่ 1.0034 ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี นับตั้งแต่ปี 2002 ที่อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินยูโร กับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่าเท่ากัน
นักวิเคราะห์ บอกว่า เงินยูโรดิ่งลงราว 12% นับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2022 และการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่าง ๆ รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed จะกดดันเงินยูโรอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้นักลงทุนเข้าหาเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มากขึ้น เนื่องจากมีความปลอดภัย
ข้อมูลอ้างอิงจาก – infoquest / TNN World / Reuters / CNN / THE STANDARD
#MarketNews #ZFX #ZFXThailand