ข่าวการตลาด
ทองคำยังคงถูกกดดันจากปัจจัยความกังวลเงินเฟ้อยังพุ่ง หนุน FED เร่งขึ้นดอกเบี้ย!! : สรุปข่าว 15 ก.ย. - ZFX

ทองคำยังคงถูกกดดันจากปัจจัยความกังวลเงินเฟ้อยังพุ่ง หนุน FED เร่งขึ้นดอกเบี้ย!! : สรุปข่าว 15 ก.ย.

15-09-2022 06:05

ราคาทองคำ หรือ XAUUSD ปิดลบในวันพุธ (14 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สูงกว่าคาด ซึ่งเป็นการปรับตัวร่วงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI 

ข่าว Forex ที่น่าสนใจในวันนี้ 

1.**ทองร่วงสู่ 1,690 ดอลลาร์ จากความกังวลเงินเฟ้อพุ่งหนุน FED เร่งขึ้นดอกเบี้ย 

ราคาทองคำ หรือ XAUUSD ปิดลบในวันพุธ (14 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับ ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 
หลังจากสหรัฐเปิดเผย ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สูงกว่าคาด ซึ่งเป็นการปรับตัวร่วงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 หลังสหรัฐเปิดเผย ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 8.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.1% ซึ่งส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ 

ทั้งนี้ แม้ทองคำถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ และเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในยามที่ตลาดเผชิญความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจ แต่การที่เฟดมีแนวโน้มเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้บดบังปัจจัยบวกดังกล่าว โดยการพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย 

นักลงทุนเริ่มคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ในการประชุมเดือนก.ย.หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI ที่สูงกว่าคาด โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 36% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% สู่ระดับ 3.25-3.50% ในการประชุมเดือนก.ย. และให้น้ำหนัก 64% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% 

2.*จีนตรึงดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.75% วันนี้ ส่งสัญญาณคงดอกเบี้ย LPR สัปดาห์หน้า 

ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในวันนี้ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจทำให้จีนยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยลูกค้าชั้นดี (LPR) ในสัปดาห์หน้า หลังจากที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา 

ทั้งนี้ คณะกรรมการ PBOC มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนไว้ที่ระดับ 2.75% 

ขณะเดียวกัน PBOC ได้อัดฉีดสภาพคล่องมูลค่า 4 แสนล้านหยวน (5.745 หมื่นล้านดอลลาร์) ผ่านเครื่องมือด้านการเงิน และอัดฉีดสภาพคล่องมูลค่า 2 พันล้านหยวนผ่านทางข้อตกลง reverse repurchase 

เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา PBOC ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย MLF ลง 0.10% สู่ระดับ 2.75% ซึ่งส่งผลให้ PBOC ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีลง 0.05% แตะที่ 3.65% และปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีลง 0.15% สู่ระดับ 4.30% เมื่อวันที่ 22 ส.ค. โดยมีเป้าหมายที่จะพยุงเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว หลังจากเศรษฐกิจภายในประเทศได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ 

ทั้งนี้ ตลาดคาดการณ์ว่า การที่ PBOC ประกาศคงอัตราดอกเบี้ย MLF ในวันนี้ อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า PBOC จะตรึงอัตราดอกเบี้ย LPR ด้วยเช่นกัน โดย PBOC มีกำหนดแถลงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีและ 5 ปีในวันอังคารหน้า (20 ก.ย.) 

3.*ญี่ปุ่นขาดดุลการค้าสูงเป็นประวัติการณ์ 

ญี่ปุ่นขาดดุลการค้ารายเดือนสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนส.ค. เนื่องจากนำเข้าเชื้อเพลิงราคาแพงเพิ่มขึ้นและเงินเยนอ่อนค่าลงอย่างรุนแรง ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจญี่ปุ่นต่อแรงกดดันด้านราคาจากต่างประเทศ 

กระทรวงการคลังญี่ปุ่นรายงานว่า ยอดนำเข้าพุ่งขึ้น 49.9% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นผลจากต้นทุนการนำเข้าน้ำมันดิบ ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ (LNG) และทำให้ยอดขาดดุลการค้าปรับตัวขึ้นสู่ 2.8173 ล้านล้านเยน (1.971 หมื่นล้านดอลลาร์) ซึ่งเป็นยอดขาดดุลการค้าครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ 

การปรับตัวขึ้นของยอดนำเข้าในเดือนส.ค.นั้น สูงกว่าการคาดการณ์เฉลี่ยของตลาดที่คาดว่าอาจปรับตัวขึ้น 46.7% ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ และสูงกว่ายอดส่งออกที่ปรับตัวขึ้น 22.1% ในเดือนส.ค.เมื่อเทียบรายปี 

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้าติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13 แล้วในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี และสูงกว่ายอดขาดดุลที่คาดการณ์ไว้ในผลสำรวจของรอยเตอร์ที่ 2.3982 ล้านล้านเยน 

เมื่อเทียบเป็นรายประเทศ ยอดส่งออกไปยังจีนซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เติบโต 13.5% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยได้รับแรงหนุนจากการส่งออกรถยนต์ที่แข็งแกร่งขึ้น เช่น รถยนต์พลังงานไฮบริด 

ด้านการส่งออกไปยังสหรัฐซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับหนึ่งของโลกนั้นขยายตัว 33.8% ในเดือนส.ค. โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นผลมาจากการส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ที่แข็งแกร่งขึ้น 

***************************** 

อ่านข่าวรวม กดที่ลิ้งค์ : /th/market-news/  

***************************** 

ข้อมูลอ้างอิง – infoquest / Reuters /  Bloomberg News 

#MarketNews #ZFX #ZFXThailand  #US #USD  #เงินเฟ้อ  #Gold #ทอง   #เงินเฟ้อ #อัตราเงินเฟ้อ #Investing #Bloomberg #Forexวันนี้ #ทองคำวันนี้ #แนวโน้ม #ตลาดหุ้น #ตลาดทอง #ตลาดทองคำ #BOJ #ดอกเบี้ย #อัตราดอกเบี้ย #JPY #USDJPY #ญี่ปุ่น  #ธนาคาร #ธนาคารกลาง #ธนาคารกลางญี่ปุ่น #FED #สหรัฐฯ #CPI #พลังงาน #เชื้อเพลิง #คงดอกเบี้ย #นโยบาย #จีน