ข่าวการตลาด
สรุปข่าวสำคัญประจำวันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม 2565 - ZFX

สรุปข่าวสำคัญประจำวันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม 2565

18-07-2022 06:22

1.**น้ำมัน WTI ยังคงถูกกดดันบริเวณ $97 กังวลจีนหวนล็อกดาวน์หลังติดเชื้อโควิดพุ่ง! 

ราคาน้ำมัน WTI ร่วงหลุดจากระดับ 97 ดอลลาร์/บาร์เรลเช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าจีนอาจจะกลับมาล็อกดาวน์เมืองสำคัญอีกครั้ง หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

หน่วยงานด้านสาธารณสุขของจีนรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีกในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าจีนอาจจะกลับมาล็อกดาวน์นครเซี่ยงไฮ้และเมืองอื่น ๆ ที่สำคัญ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน 
คาร์สเตน ฟริตช์และบาบารา แลมเบรชท์ นักวิเคราะห์ด้านพลังงานจากคอมเมิร์ซแบงก์ รีเสิร์ชกล่าวว่า ความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันที่ลดลง จะยังคงกดดันราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย 

สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกในปีนี้และปีหน้า โดยระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคที่ย่ำแย่ลง และความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะยังคงกดดันบรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมัน 

 
2.**จับตา! ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ อาจเร่งขึ้นดอกเบี้ยหลังเงินเฟ้อ Q2 พุ่งสูงสุดในรอบ 32 ปี! 

สำนักงานสถิติแห่งชาตินิวซีแลนด์รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายผู้บริโภค พุ่งขึ้น 7.3% ในไตรมาส 2/2565 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 32 ปี โดยได้แรงหนุนจากราคาต้นทุนการก่อสร้างและค่าเช่าบ้านที่ปรับตัวสูงขึ้น 
นักวิเคราะห์จากวอลล์สตรีท เจอร์นัลคาดการณ์ว่า เงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 32 ปีจะเป็นปัจจัยผลักดันให้ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก หลังจากที่เพิ่งปรับขึ้น 0.50% สู่ระดับ 2.50% ในการประชุมเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 6 ติดต่อกัน โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมเงินเฟ้อ 

ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ถือเป็นธนาคารกลางในระดับต้น ๆ ของโลกที่ยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ที่เคยนำมาใช้ในช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาด โดยธนาคารกลางมีเป้าหมายที่จะควบคุมเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างมากในขณะนี้ 

ทั้งนี้ ธนาคารกลางนิวซีแลนด์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ เงินเฟ้อภายในประเทศจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 7% ในไตรมาส 2/2565 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ธนาคารกลางกำหนดไว้ที่ 1% – 3% 
เงินเฟ้อทั่วโลกพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงเนื่องจากหลายประเทศออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบของโควิด-19 รวมทั้งการหยุดชะงักของการขนส่งทั่วโลก และการที่รัสเซียส่งกำลังทหารรุกรานยูเครน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ธนาคารกลางทั่วโลกเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้มีความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงก็ตาม 

3.* แคนาดา ราคาอาหารแพงขึ้น ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งเป็นประวัติการณ์! 

บรรดาชาวแคนาดาเริ่มรู้สึกถึงความกดดันจากราคาอาหารและพลังงานที่พุ่งขึ้น ขณะที่ภาวะเงินเฟ้อในแคนาดาพุ่งขึ้นถึง 7.7% เมื่อเดือนพฤษภาคม ถือว่าสูงสุดในรอบเกือบ 40 ปี 

ธนาคารอาหารแคนาดา ซึ่งเป็นองค์กรการกุศล ได้สำรวจความเห็นประชาชนพบว่า ราคาอาหารพุ่งขึ้นกว่า 10% เมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้ชาวแคนาดาเกือบ 1 ใน 4 ได้กินอาหารน้อยลง และชาวแคนาดาประมาณครึ่งหนึ่งมีรายได้ต่อปีต่ำกว่า 50,000 ดอลลาร์แคนาดา หรือราว 1.4 ล้านบาท ทำให้พวกเขาต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อหาอาหารให้เพียงพอ 

‘เว็ง’ ผู้จัดการซูเปอร์มาร์เก็ตในนครโตรอนโต เปิดเผยว่า ราคาสินค้าประเภทข้าวขึ้นราคาทั้งหมด โดยข้าวจากสหรัฐฯ ราคาพุ่ง 40% ก่อนหน้านี้ใช้เงินไม่ถึง 10,000 ดอลลาร์แคนาดาได้ข้าวหนึ่งตู้คอนเทเนอร์ แต่ตอนนี้ต้องใช้เงินมากกว่า 10,000 ดอลลาร์แคนาดาจึงจะได้ข้าวในปริมาณเดียวกัน 

ธนาคารอาหารในนครโตรอนโตบริจาคอาหารให้ผู้คนวันละประมาณ 60,000 คนก่อนโรคระบาด แต่เมื่อเดือนที่แล้ว มีคนมาขอรับบริจาคอาหารวันละมากกว่า 170,000 คน บรรดานักเศรษฐศาสตร์ชาวแคนาดาเตือนว่า แรงงานและผู้ได้รับบำนาญที่มีรายได้ต่ำ น่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากภาวะเงินเฟ้อ 

ขณะที่รัฐบาลแคนาดา ระบุว่า วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน คือต้นตอของปัญหาต่าง ๆ เช่น เงินเฟ้อสูงขึ้น แต่นักเศรษฐศาสตร์บอกว่ามีปัจจัยอื่นที่มีส่วนทำให้แคนาดาเผชิญเงินเฟ้อพุ่ง รวมถึงการระบาดของโควิด-19 และห่วงโซ่อุปทานได้รับผลกระทบ 

ข้อมูลอ้างอิงจาก – infoquest / TNN World / Reuters / Investing / Xinhua News  

#MarketNews #ZFX #ZFXThailand