ข่าวการตลาด
เงินเฟ้อญี่ปุ่นพุ่งแรงสุดในรอบกว่า 31 ปี อาจกระทบนโยบายการเงิน BOJ : สรุปข่าว 21 ต.ค. - ZFX

เงินเฟ้อญี่ปุ่นพุ่งแรงสุดในรอบกว่า 31 ปี อาจกระทบนโยบายการเงิน BOJ : สรุปข่าว 21 ต.ค.

21-10-2022 06:03

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดของญี่ปุ่นสะท้อนให้เห็นว่า BOJ จะเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากในการพยุงเศรษฐกิจที่ยังคงอ่อนแอด้วยการตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไป 

ข่าว Forex วันนี้ 

1.**เงินเฟ้อญี่ปุ่นพุ่งแรงสุดในรอบกว่า 31 ปี  หวั่น BOJ เข้าแทรกแซงตลาดอีกครั้ง! 

กระทรวงฝ่ายกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่นรายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานทั่วประเทศ ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสด พุ่งขึ้น 3% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 31 ปี เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินเยนส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าปรับตัวขึ้นเป็นวงกว้างตั้งแต่ต้นทุนพลังงานไปจนถึงอาหาร โดยข้อมูลดังกล่าวอาจทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เผชิญกับความยากลำบากในการเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน 

ทั้งนี้ ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อสำคัญของญี่ปุ่น ยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อของ BOJ ที่ระดับ 2% ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่นจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงสิ้นปีนี้ 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดของญี่ปุ่นสะท้อนให้เห็นว่า BOJ จะเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากในการพยุงเศรษฐกิจที่ยังคงอ่อนแอด้วยการตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไป ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวส่งผลให้เงินเยนอ่อนค่าลงอย่างมาก และทำให้ต้นทุนการนำเข้าพุ่งขึ้น 

BOJ ยังคงดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายซึ่งสวนทางกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยในขณะนี้นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนพ.ย.และธ.ค. ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% จำนวน 5 ครั้งติดต่อกัน หลังจากปรับขึ้น 0.75% ในเดือนมิ.ย., ก.ค. และก.ย. ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของเฟดจะพุ่งแตะระดับ 4.50-4.75% ในสิ้นปีนี้ 

 
2.**น้ำมัน WTI ฟื้นตัว! รับข่าวจีนเล็งลดเวลากักตัวคุมโควิด 

ัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (20 ต.ค.) ขานรับความหวังที่ว่าความต้องการใช้น้ำมันในจีนจะฟื้นตัว หลังมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่จีนกำลังพิจารณาลดระยะเวลาการกักตัวของผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ อย่างไรก็ดี ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ 

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เจ้าหน้าที่จีนกำลังพิจารณาลดระยะเวลาการกักตัวของผู้ที่เดินทางเข้าประเทศเหลือเพียง 7 วัน จากเดิมกำหนด 10 วัน หลังจากนโยบายโควิดเป็นศูนย์ทำให้จีนแยกตัวออกจากโลกภายนอกมากยิ่งขึ้น 

บ๊อบ ยอว์เกอร์ นักวิเคราะห์ด้านพลังงานจากบริษัทมิซูโฮกล่าวว่า ข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าความต้องการใช้น้ำมันในจีนจะฟื้นตัว โดยที่ผ่านมานั้น จีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก เดินหน้าใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์จนส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน 

อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมัน WTI ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการใช้น้ำมัน 

นายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียกล่าวว่า การที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมาแทบไม่สามารถสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ ดังนั้นเฟดจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยเขามองว่าเฟดควรจะปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าระดับ 4% ภายในปลายปีนี้ 

นอกจากนี้ นายฮาร์เกอร์ระบุว่า เฟดจะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า และจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไปอีกระยะเวลาหนึ่ง และหลังจากนั้น เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจ 

3.** จับตา! “อีลอน มัสก์” หลังเล็งปลดพนักงานทวิตเตอร์เกือบ 75% หลังปิดดีลซื้อกิจการ 

หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ รายงานว่า นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอบริษัทเทสลา มีแผนปรับลดจำนวนพนักงานของบริษัททวิตเตอร์เกือบ 75% หลังจากที่เขาได้ครอบครองกิจการทวิตเตอร์อย่างเต็มตัว 
ทั้งนี้ นายมัสก์ซึ่งเสนอซื้อกิจการทวิตเตอร์ในวงเงิน 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ จะปิดดีลซื้อกิจการในวันที่ 28 ต.ค.นี้ โดยเขาวางแผนที่จะลดจำนวนพนักงานทวิตเตอร์ลงเหลือ 2,000 คน จากจำนวน 7,500 คน 

ขณะที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า นายมัสก์ได้แจ้งกับนักลงทุนเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาว่า เขาจะเสนอแผนการปรับลดพนักงานของทวิตเตอร์ในระหว่างการเจรจากู้ยืมเงินกับบรรดานายธนาคาร เพื่อระดมเงินทุนในการซื้อกิจการทวิตเตอร์ 

ส่วนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (19 ต.ค.) นายมัสก์ได้ตอบข้อซักถามของนักลงทุนในระหว่างการแถลงผลประกอบการประจำไตรมาส 3 ว่า “ทวิตเตอร์เป็นสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในระยะยาว” และมีการคาดการณ์ว่า นายมัสก์อาจจะขายหุ้นส่วนหนึ่งของเขาที่ถืออยู่ในเทสลา เพื่อเป็นทุนในการปิดดีลซื้อกิจการทวิตเตอร์ในราคา 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ 

***************************** 

อ่านข่าวรวม กดที่ลิ้งค์ : /th/market-news/  

***************************** 

ข้อมูลอ้างอิง – infoquest / Reuters /  Bloomberg News / Investing 

#MarketNews #ZFX #ZFXThailand  #US #USD  #เงินเฟ้อ  #Gold #ทอง   #เงินเฟ้อ #อัตราเงินเฟ้อ #Investing #Bloomberg #Forexวันนี้ #ทองคำวันนี้ #แนวโน้ม #นโยบายการเงิน #เศรษฐกิจ #ศก. #US #USD #ธนาคารกลาง #Fed  #เฟด #ForexToday #Forex #น้ำมัน #น้ำมันWTI #ราคาน้ำมัน #ราคาน้ำมันวันนี้ #WTI #OPEC #OPEC+ #BOJ #Japan #ญี่ปุ่น #Twitter #ทวิต #อีลอน