สรุปข่าวสำคัญประจำวันอังคารที่ 26 กรกฎาคม 2565
1.*BOJ ยังคงดอกเบี้ยต่ำ-แนะขึ้นค่าแรงหวังบรรลุเป้าเงินเฟ้อ 2% อย่างยั่งยืน
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมเดือนมิ.ย.ในวันนี้ระบุว่า กรรมการ BOJ มองว่าการปรับขึ้นค่าแรงถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ BOJ สามารถบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ได้อย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นการเน้นย้ำว่า BOJ มีเป้าหมายที่จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษ (Ultra-low interest rates) ต่อไป แม้มีสัญญาณบ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นก็ตาม
รายงานการประชุมระบุว่า กรรมการบางคนจากทั้งหมด 9 คนของ BOJ มองว่า ตัวเลขเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นเป็นวงกว้าง และกำลังนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงมุมมองของสาธารณชนที่เคยมองว่า เงินเฟ้อและค่าแรงจะไม่ปรับตัวขึ้นมากนักในอนาคต
อย่างไรก็ดี กรรมการ BOJ มีความเห็นตรงกันว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนด้วยนโยบายการเงินขนานใหญ่ เพื่อให้สามารถรับมือกับผลกระทบที่เกิดจากการพุ่งขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และภาวะติดขัดด้านอุปทานซึ่งมีสาเหตุมาจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์คุมโควิด-19 ในประเทศจีน
“กรรมการ BOJ เห็นตรงกันว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนในระดับที่สูงมากเกินไป และกรรมการส่วนใหญ่ต่างก็เล็งเห็นถึงความสำคัญของการปรับขึ้นค่าแรงว่า เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ BOJ บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้ออย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพ” BOJ ระบุในรายงานการประชุม
ในการประชุมเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ BOJ มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษ (Ultraeasy Monetary Policy) ซึ่งรวมถึงการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ -0.1% และคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ประมาณ 0% โดย BOJ ยังคงควบคุมเพดานของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไม่ให้สูงเกิน 0.25%
2.*โกลด์แมนแซคส์หั่นคาดการณ์ดัชนี MSCI China เหลือ 0% เหตุตลาดอสังหาฯจีนตกต่ำ
โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์แนวโน้มดัชนี MSCI China เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนทรุดตัวลงอย่างหนัก โดย MSCI China เป็นดัชนีที่ติดตามหุ้นของบริษัทจีนกว่า 700 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นทั่วโลก ซึ่งรวมถึงบริษัทเทนเซ็นต์, บีวายดี (BYD) และธนาคารอินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า (ICBC)
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์ปรับลดคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตของดัชนี MSCI China ลงเหลือ 0% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 4%
ดัชนี MSCI China ร่วงลงกว่า 6% ในเดือนก.ค. เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์จีน รวมทั้งผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19, การที่รัฐบาลจีนออกมาตรการควบคุมธุรกิจเทคโนโลยี และปัญหาภูมิรัฐศาสตร์
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนเผชิญปัญหาหนักอีกครั้งในไม่กี่สัปดาห์มานี้ เนื่องจากบรรดาผู้ซื้อบ้านไม่ยอมจ่ายค่าจำนองสำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ยังสร้างไม่แล้วเสร็จ ซึ่งการซื้อบ้านก่อนสร้างเสร็จนั้นถือเป็นเรื่องปกติในจีน โดยโครงการที่สร้างไม่เสร็จนั้นเกิดจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขาดแคลนเงินสดมาดำเนินธุรกิจต่อ
3.*สหรัฐใกล้ถึงจุดวิกฤติ หลังพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงเกือบ 3,000 ราย
ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเตือนว่า สหรัฐจวนหมดเวลาในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงแล้ว เนื่องจากสหรัฐพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงแล้วเกือบ 3,000 รายในประเทศ
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐระบุว่า รัฐนิวยอร์กพบผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิงมากที่สุดแตะ 900 ราย ตามด้วยแคลิฟอร์เนีย 356 ราย และฟลอริดา 247 ราย
นอกจากนี้ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (23 ก.ค.) นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ หลังพบการระบาดแล้วในมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเตือนว่า สหรัฐจะถึงจุดวิกฤติในการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐได้ขยายการตรวจหาเชื้อและจัดหาวัคซีนหลายหมื่นโดส แต่ปริมาณวัคซีนที่จำกัดนั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ข้อมูลอ้างอิง – infoquest / Xinhua News / Reuters / TNN World
#MarketNews #ZFX #ZFXThailand