จับตา ตัวเลขเงินเฟ้อยูโรโซนวันนี้ 17.00น (ตามเวลาในไทย) : สรุปข่าว 31 ต.ค. 65
การรายงาน ดัชนีราคาผู้บริโภค เป็นการวัดการเคลื่อนไหวของราคา ของราคาขายปลีกและบริการ ไม่รวม อาหาร พลังงาน แอลกอฮอล์ และยาสูบCPI ซึ่งเป็นดัชนีหลักเป็นตัวบ่งชี้สำคัญในการวัดอัตราเงินเฟ้อ
ข่าว Forex วันนี้
1.**จับตา ตัวเลขเงินเฟ้อยูโรโซนวันนี้ 17.00น
จับตาการรายงาน ดัชนีราคาผู้บริโภค โดย Eurostat เป็นการวัดการเคลื่อนไหวของราคาโดยการเปรียบเทียบระหว่างราคาขายปลีก
และบริการ ไม่รวม อาหาร พลังงาน แอลกอฮอล์ และยาสูบ
CPI ดัชนีหลักเป็นตัวบ่งชี้สำคัญในการวัดอัตราเงินเฟ้อและการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มการซื้อ
โดยทั่วไป หากตัวเลขแท้จริงออกมาสูงจะถูกมองว่าเป็นปัจจัยสนับสนุนแนวโน้มการเร่งขึ้นดอกเบี้ยต่อไป
2.**โกลด์แมน แซคส์ คาดเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ย แตะ 5% มี.ค.ปีหน้า เหตุเงินเฟ้อยังสูง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กและรอยเตอร์รายงานว่า นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยจนแตะระดับ 5% ในเดือนมีนาคมปีหน้า เพิ่มขึ้น 0.25% จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมสัปดาห์นี้ จากนั้นอีก 0.50% ในการประชุมเดือนธันวาคม ต่อด้วย 0.25% ในการประชุมเดือนกุมภาพันธ์ และ 0.25% ในการประชุมเดือนมีนาคม ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมปีหน้าเพิ่มขึ้นเป็น 5%
นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ ให้เหตุผลที่ทำให้คาดการณ์เช่นนี้ว่าเป็นเพราะเงินเฟ้อที่สูงจนน่ากังวล และต้องการลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจเมื่อการกวดขันทางการเงินสิ้นสุดลงและรายได้เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็พยายามเลี่ยงไม่ให้สภาวะทางการเงินผ่อนคลายก่อนถึงเวลาสมควร
ด้าน FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 84.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกันในการประชุมนโยบายวันที่ 1-2 พ.ย.นี้ และให้น้ำหนัก 51.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนธ.ค.
3.**ดัชนี PMI จีนภาคการผลิต-ภาคบริการหดตัวในเดือนต.ค. จากผลกระทบล็อกดาวน์
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนต.ค. ปรับตัวลงแตะระดับ 49.2 จากระดับ 50.1 ในเดือนก.ย.
ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเดือนต.ค.ลดลงสู่ร่ะดับ 48.7 จากระดับ 50.6 ในเดือนก.ย.
ทั้งนี้ ดัชนีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่า ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของจีนอยู่ในภาวะหดตัว
เศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการที่รัฐบาลประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งการส่งออกที่ชะลอตัวลง อันเนื่องมาจากอุปสงค์สินค้าจีนในตลาดโลกที่อ่อนแรงลง
รัฐบาลจีนประกาศมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่เมืองอู่ฮั่นไปจนถึงเส้นทางอุตสาหกรรมของจีนบนชายฝั่งตะวันออก ขณะที่ได้สั่งระงับการเรียนการสอนในโรงเรียนและการรับประทานอาหารในร้านในเมืองกวางโจวซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญด้านการผลิตทางตอนใต้ของจีน
นอกจากนี้ การชัตดาวน์ในหลายพื้นที่ของกรุงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ก็ยังคงดำเนินต่อไป ขณะเดียวกันยังมีการปิดกั้นที่พักอาศัยและสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในที่พักอาศัยหากมีการสัมผัสกับผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกรายงานเตือนเมื่อวันที่ 28 ต.ค.ว่า การชะลอตัวลงอย่างรุนแรงของเศรษฐกิจจีนเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ IMF ตัดสินใจปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจเอเชียในปี 2565 และ 2566 ลงสู่ระดับ 4.0% และ 4.3% ตามลำดับ จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 4.9% และ 5.1% ตามลำดับ
ทั้งนี้ IMF คาดการณ์ว่า ตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 4.4% หลังจากมีการขยายตัว 8.1% ในปี 2564 นอกจากนี้ IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 4.4% ในปี 2566 และขยายตัว 4.5% ในปี 2567
*****************************
อ่านข่าวรวม กดที่ลิ้งค์ : /th/market-news/
*****************************
ข้อมูลอ้างอิง – infoquest / Reuters / Bloomberg News / Investing / CNBC
#MarketNews #ZFX #ZFXThailand #US #USD #เงินเฟ้อ #Gold #ทอง #เงินเฟ้อ #อัตราเงินเฟ้อ #Investing #Bloomberg #Forexวันนี้ #ทองคำวันนี้ #แนวโน้ม #นโยบายการเงิน #เศรษฐกิจ #ศก. #US #USD #ธนาคารกลาง #ForexToday #Forex #CPI #EU #EUR #EURUSD #China #PMI