น้ำมัน WTI ร่วงต่อเนื่อง หลังวิตกจีนขยายล็อกดาวน์ : สรุปข่าว 7 ก.ย. 2565
ราคาน้ำมัน WTI ร่วงลงเกือบ 1.6% ในช่วงเช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การที่จีนยังคง ล็อกดาวน์เมืองสำคัญและการที่ธนาคารกลางทั่วโลกเดินหน้าปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ย จะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเผชิญภาวะถดถอย
ข่าว Forex ที่น่าสนใจในวันนี้
1.***น้ำมัน WTI ร่วงอย่างต่อเนื่องเช้านี้ หลังวิตกจีนล็อกดาวน์-ดอกเบี้ยขาขึ้นกระทบดีมานด์
ราคาน้ำมัน WTI ร่วงลงเกือบ 1.6% ในช่วงเช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การที่จีนยังคง ล็อกดาวน์ เมืองสำคัญและการที่ธนาคารกลางทั่วโลกเดินหน้าปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ย จะส่งผลให้ เศรษฐกิจโลกเผชิญภาวะถดถอย และทำให้ความต้องการใช้ น้ำมัน ชะลอตัวลงด้วย
นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของอุปสงค์น้ำมัน หลังจากจีนยังคงล็อกดาวน์เมืองสำคัญ โดยเมืองเฉิงตูซึ่งมีประชากรกว่า 21 ล้านคนประกาศขยายเวลาล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ส่วนที่เมืองกุ้ยหยาง ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลกุ้ยโจว สั่งล็อกดาวน์ชุมชนใน 6 เขตจากทั้งหมด 10 เขต โดยเมืองกุ้ยหยางมีประชาชนอาศัยอยู่ประมาณ 6.1 ล้านคน และเป็นที่ตั้งของบริษัทผลิตรถยนต์หลายแห่งซึ่งรวมถึงบริษัทจีลี ออโตโมบิล โฮลดิ้งส์
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางขนาดใหญ่ทั่วโลก โดยนักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 8 ก.ย.นี้ และคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเช่นกันในการประชุมวันที่ 21 ก.ย.
ในขณะเดียวกันสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จีนมีแนวโน้มสั่งขยายคำสั่งล็อกดาวน์เมืองเฉิงตู ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นแบบต่อเนื่อง โดยล่าสุดในวันอังคาร (6 ก.ย.) เฉิงตูพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 121 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 90 คนในวันจันทร์
2.**ทองร่วงอย่างต่อเนื่องกลับมาต่ำกว่า 1,700 ดอลลาร์ อีกครั้งเช้านี้!
โดยตลาดทองคำถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ รวมทั้งความกังวลที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่าการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของภาคบริการสหรัฐจะผลักดันให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 56.9 ในเดือนส.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 55.5 จากระดับ 56.7 ในเดือนก.ค. โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน
นักลงทุนปรับเพิ่มการคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟดหลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคบริการที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 74.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนัก 26.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%
3.*จีนส่งออก 7.1% ในส.ค. เหตุอุปสงค์ชะลอตัว-ผลกระทบล็อกดาวน์
สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนส.ค.ของจีนปรับตัวขึ้นเพียง 7.1% ซึ่งชะลอตัวลงอย่างมากจากเดือนก.ค.ที่มีการขยายตัว 18% เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อส่งผลให้อุปสงค์สินค้าจีนในต่างประเทศลดลง นอกจากนี้ มาตรการ ล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 และปัญหาคลื่นความร้อนยังส่งผลกระทบต่อการผลิต และทำให้เศรษฐกิจจีนมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะขาลง
ทั้งนี้ ยอดส่งออกเดือนส.ค.ของจีนขยายตัวน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าอาจจะเพิ่มขึ้น 12.5%
ในขณะที่เศรษฐกิจจีนยังคงได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการล็อกดาวน์เมืองสำคัญเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเมืองเฉิงตูซึ่งมีประชากรกว่า 21 ล้านคนประกาศขยายเวลาล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
*****************************
อ่านข่าวรวม กดที่ลิ้งค์ : /th/market-news/
*****************************
ข้อมูลอ้างอิง – infoquest / Reuters / Investing / Bloomberg News
#MarketNews #ZFX #ZFXThailand #US #USD #เงินเฟ้อ #Gold #ทอง #เงินเฟ้อ #อัตราเงินเฟ้อ #Investing #Bloomberg #Forexวันนี้ #ทองคำวันนี้ #แนวโน้ม #จีน #China #WTI #Oil #น้ำมัน #พลังงาน #ราคาพลังงาน #มาตรการ #covid #covid19 #โควิด #โควิด-19 #ล็อกดาวน #ตลาดหุ้น #ตลาดทอง #ตลาดทองคำ