ข่าวการตลาด
จีนส่งเครื่องบินรบเข้าใกล้ไต้หวันมากสุดในรอบ 3 เดือน!! : สรุปข่าว 8 พ.ย. 65 - ZFX

จีนส่งเครื่องบินรบเข้าใกล้ไต้หวันมากสุดในรอบ 3 เดือน!! : สรุปข่าว 8 พ.ย. 65

08-11-2022 10:57

เครื่องบินรบของกองทัพอากาศจีนได้เริ่มรุกคืบเข้าไปยังพื้นที่เปราะบางใกล้ไต้หวันในระดับสูงสุด นับตั้งแต่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเดินทางเยือนไต้หวันเมื่อ 3 เดือนก่อน 

ข่าว Forex วันนี้ 

1.**จีนส่งเครื่องบินรบเข้าใกล้ไต้หวันมากสุดในรอบ 3 เดือน หลังรมว.อังกฤษเยือนไต้หวัน 

เครื่องบินรบของกองทัพอากาศจีนได้เริ่มรุกคืบเข้าไปยังพื้นที่เปราะบางใกล้ไต้หวันในระดับสูงสุด นับตั้งแต่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเดินทางเยือนไต้หวันเมื่อ 3 เดือนก่อน ท่ามกลางการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองมากมายที่จีนมองว่าเป็นการบ่อนทำลายอธิปไตยของจีน 

กระทรวงกลาโหมไต้หวันได้ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า เครื่องบินรบ 31 ลำได้บินเข้าสู่เขตป้องกันภัยทางอากาศทางตะวันตกเฉียงใต้ของไต้หวันหรือเส้นแบ่งเขตแดนช่องแคบไต้หวันเมื่อวานนี้ (7 พ.ย.) ซึ่งนับเป็นจำนวนที่มากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค. 

ทางกระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า เครื่องบินดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของฝูงบินรบจำนวน 63 ลำที่อยู่ใกล้กับ “พื้นที่โดยรอบไต้หวัน” พร้อมเสริมว่า กองทัพไต้หวันได้ “เฝ้าจับตาดูสถานการณ์” และดำเนินการตอบโต้ด้วยเครื่องบินรบ เรือเดินสมุทร และระบบขีปนาวุธ แต่ไม่ได้ขยายความเกี่ยวกับรายละเอียดของการตอบโต้ดังกล่าวแต่อย่างใด 

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การส่งฝูงบินเข้าใกล้ไต้หวันในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่าจีนกำลังแสดงความไม่พอใจต่อกรณีการเดินทางเยือนไต้หวันของนายเกร็ก แฮนด์ส รัฐมนตรีกระทรวงการค้าของอังกฤษในสัปดาห์นี้และการเปิดสำนักงานการค้าของลิทัวเนียบนเกาะไต้หวันซึ่งจีนอ้างสิทธิ์ว่าเป็นดินแดนของตนเอง นอกจากนี้ สหรัฐและไต้หวันยังเตรียมจัดการเจรจาเกี่ยวกับการริเริ่มในด้านการค้าและเศรษฐกิจในวันอังคารและวันพุธที่นิวยอร์ก 

ทั้งนี้ นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวในการแถลงข่าวว่า “โลกนี้มีเพียงจีนเดียวเท่านั้น และไต้หวันเป็นหนึ่งในดินแดนของจีนโดยไร้ซึ่งการแบ่งแยก และอังกฤษควรยุติการกระทำอันเป็นการส่งสัญญาณที่ไม่ถูกต้องไปยังกองกำลังแบ่งแยกดินแดนไต้หวันเสียที” 

 
2.**น้ำมัน WTI ร่วงเล็กน้อย หลังตลาดยังมีกังวลแผนเปิดประเทศจีนที่ไม่แน่นอน 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (7 พ.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการเปิดประเทศของจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก 
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า บรรดาผู้นำจีนกำลังพิจารณาเรื่องการเปิดประเทศ หลังจากที่ใช้มาตรการเข้มงวดในการควบคุมโควิด-19 มาเป็นเวลานาน แต่กระบวนการเปิดประเทศจะเป็นไปอย่างช้า ๆ และไม่มีการกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจน 

ทางด้านนายหู เซียง เจ้าหน้าที่ของสำนักงานป้องกันและควบคุมโรคของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (NHC) เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (5 พ.ย.) ว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วประเทศทำให้จีนยังคงต้องยึดมั่นในนโยบายโควิดเป็นศูนย์ และระบุว่าการใช้นโยบายดังกล่าวได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพมากที่สุด 

ซึ่งในขณะเดียวกัน การรายงานสถานการณ์โควิดในจีน ยังคงย่ำแย่ลง ผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงสุดในรอบ 6 เดือน 

สถานการณ์โควิด-19 ในจีนมีแต่จะเลวร้ายลง ทำให้จีนไม่สามารถกำจัดโควิดและผ่อนคลายมาตรการควบคุมลงได้ โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้กิจกรรมทางธุรกิจหลายอย่างต้องหยุดชะงัก 
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า แบบจำลองของโนมูระแสดงให้เห็นว่า ณ วันจันทร์ (7 พ.ย.) มาตรการคุมโควิด-19 ของจีนส่งผลกระทบในทางลบต่อ 12.2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีน เพิ่มจาก 9.5% เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า และระบุว่า ประชาชนจีนกว่า 1 ใน 5 ต้องอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมบางประการ 

รายงานระบุว่า มณฑลกวางตุ้งได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด โดยจำนวนผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในเขตเดียว และล่าสุดพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในกว่า 20 จาก 31 มณฑลของจีน 

ด้านมณฑลกว่างโจวต้องเลื่อนงานมอเตอร์โชว์ที่มีกำหนดเปิดฉากในสัปดาห์หน้าออกไปอย่างไม่มีกำหนด และโรงเรียนต่าง ๆ ในจีนกำลังพิจารณาว่าจะต้องเปลี่ยนไปเรียนทางออนไลน์หรือไม่ 

นายเคลาส์ เซนเกล รองประธานหอการค้ายุโรป (EU) ประจำจีน และประธานฝ่ายภูมิภาคทางใต้ของจีนเปิดเผยว่า “อย่างหนึ่งที่ชัดเจนมากคืองานด้านธุรกิจจำนวนมากต้องถูกยกเลิกหรือเลื่อนออกไป ผู้คนไม่กล้าเดินทางเพราะมีข้อจำกัดมากเกินไป บริษัทต่าง ๆ จากกวางตุ้งและเซินเจิ้นไม่สามารถเข้าร่วมมหกรรมส่งออกนานาชาติของจีนที่จัดขึ้นในเซี่ยงไฮ้ในสัปดาห์นี้ได้ด้วยซ้ำ เราจะรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าไว้ได้อย่างไรในเมื่อเราไม่สามารถเจอหน้ากันได้” 

3.** “ไบเดน” เตือนประชาธิปไตยตกอยู่ในความเสี่ยง หากริพับลิกันผงาดในศึกเลือกตั้ง 

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐออกโรงเตือนเมื่อวันจันทร์ (7 พ.ย.) ว่า หากพรรคริพับลิกันคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งกลางเทอมที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันนี้ (8 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น จะทำให้สถาบันประชาธิปไตยของสหรัฐอ่อนแอลง 
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ความเห็นของปธน.ไบเดนสะท้อนให้เห็นถึงความแตกแยกที่หยั่งรากลึกในแวดวงการเมืองสหรัฐ ก่อนถึงการเลือกตั้งกลางเทอม ซึ่งอาจเปิดทางให้พรรคริพับลิกันก้าวเข้ามาครองเสียงข้างมากในหนึ่งสภา หรือทั้งสองสภา 

“ขณะนี้เราได้มาถึงจุดเปลี่ยนแล้ว เราต่างก็ตระหนักว่าประชาธิปไตยของเราตกอยู่ในความเสี่ยง และเรารู้ดีว่านี่เป็นช่วงเวลาที่เราต้องปกป้องสิ่งสิ่งนี้เอาไว้” ปธน.ไบเดนกล่าวที่การหาเสียงในมหาวิทยาลัยโบวี สเตต ใกล้กับกรุงวอชิงตัน 

นักวิเคราะห์การเลือกตั้งที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดคาดการณ์ว่า พรรคริพับลิกันมีแนวโน้มกวาดเก้าอี้ประมาณ 25 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีทั้งหมด 435 ที่นั่ง ซึ่งเพียงพออย่างเหลือเฟือที่จะทำให้พรรคริพับลิกันพลิกมาเป็นฝ่ายครองเสียงข้างมาก แทนที่พรรคเดโมแครต นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ระบุด้วยว่า พรรคริพับลิกันมีลุ้นชิงเก้าอี้ 1 ที่นั่งที่ทางพรรคต้องการ เพื่อครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา 

แม้ให้คำมั่นว่าจะส่งเสริมด้านโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานสะอาด แต่ชาวอเมริกันจำนวนมากไม่พึงพอใจการทำงานของปธน.ไบเดน โดยผลสำรวจของรอยเตอร์/อิปซอสที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ระบุว่า มีชาวอเมริกันเพียง 39% ที่พึงพอใจการทำงานของปธน.ไบเดน 

การชิงชัยทางการเมืองดำเนินไปอย่างดุเดือด โดยพรรคริพับลิกันได้กล่าวโทษว่าคณะบริหารของปธน.ไบเดนเป็นต้นเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อและอาชญากรรมพุ่งสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่บรรดาผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งชาวอเมริกันวิตกกังวลมากที่สุด 2 อันดับแรก ขณะเดียวกันผู้สมัครหลายสิบชีวิตก็ได้ตอกย้ำข้อกล่าวอ้างเรื่องการฉ้อโกงที่ไร้หลักฐานของนายทรัมป์ในการพ่ายแพ้ศึกเลือกตั้งปี 2563 โดยบางส่วนอาจลงเอยด้วยการเข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ หรือคณะบริหารเลือกตั้งในรัฐสมรภูมิที่ไม่ได้สนับสนุนพรรคการเมืองใดเป็นพิเศษ และมีบทบาทสำคัญในการเลือกตั้งปี 2567 

***************************** 

อ่านข่าวรวม กดที่ลิ้งค์ : /th/market-news/  

***************************** 

ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสารสำคัญ และอยากรับการวิเคราะห์แนวโน้มจากนักวิเคราะห์ประจำโบรคเกอร์ ZFX ก่อนใคร เชิญได้เลยที่ Line Open Chat: https://bit.ly/ZFXFreeGroup   

***************************** 

ข้อมูลอ้างอิง – infoquest / Reuters /  Bloomberg News / Investing / CNBC 

#MarketNews #ZFX #ZFXThailand  #US #USD  #เงินเฟ้อ  #Gold #ทอง   #เงินเฟ้อ #อัตราเงินเฟ้อ #Investing #Bloomberg #Forexวันนี้ #ทองคำวันนี้ #แนวโน้ม #นโยบายการเงิน #เศรษฐกิจ #ศก. #US #USD   #ForexToday #Forex  #China  #WTI #น้ำมัน #ราคาน้ำมัน #ราคาน้ำมันวันนี้ #น้ำมันWTI #Covid #Taiwan #ไต้หวัน #จีน