ข่าวการตลาด
ยูโรกลับมาแข็งค่าเทียบดอลลลาร์อีกครั้ง หลัง ECB ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% : สรุปข่าว 9 ก.ย. 2565 - ZFX

ยูโรกลับมาแข็งค่าเทียบดอลลลาร์อีกครั้ง หลัง ECB ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% : สรุปข่าว 9 ก.ย. 2565

09-09-2022 05:43

นอกจากนี้ ECB ยังส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยระบุว่า “อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงเกินไป และมีแนวโน้มอยู่สูงกว่าเป้าหมายของ ECB เป็นระยะเวลาหนึ่ง” 

ข่าว Forex ที่น่าสนใจในวันนี้ 

1.*ยูโรกลับมาแข็งอีกครั้ง ทำให้ EUR/USD กลับมายืนเหนือ 1.0000 ได้ในช่วงเช้าวันนี้ หลัง ECB ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% 

ยูโร แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (8 ก.ย.) หลังจาก ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศขึ้น อัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ 
ในการประชุมเมื่อวานนี้ ECB มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสู่ระดับ 0.75% และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์สู่ระดับ 1.25% รวมทั้งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สู่ระดับ 1.50% โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 14 ก.ย. 

นอกจากนี้ ECB ยังส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยระบุว่า “อัตรา เงินเฟ้อ ยังคงอยู่สูงเกินไป และมีแนวโน้มอยู่สูงกว่าเป้าหมายของ ECB เป็นระยะเวลาหนึ่ง” 

ทั้งนี้ ECB ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปีเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ 

สำนักงานสถิติแห่ง สหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของยูโรโซนพุ่งขึ้นสู่ระดับ 9.1% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ที่ยูโรสแตทเริ่มรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2540 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.0% จากระดับ 8.9% ในเดือนก.ค. 

ทางด้านนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวสุนทรพจน์ที่สถาบันคาโต (Cato Institute) เมื่อช่วงค่ำวานนี้ว่า เฟดมีความมุ่งมั่น “อย่างแรงกล้า” ในการควบคุมเงินเฟ้อ และเฟดหวังว่าการบรรลุเป้าหมายดังกล่าวจะไม่ทำให้เกิดต้นทุนทางสังคมที่สูงเกินไป ขณะเดียวกันนายพาวเวลส่งสัญญาณว่า การยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรือการปรับลดอัตราดอกเบี้ย จะยังไม่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ 

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 6,000 ราย สู่ระดับ 222,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 240,000 ราย 

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐในวันอังคารที่ 13 ก.ย. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ 

2.* “เยลเลน” มั่นใจเงินเฟ้อสหรัฐจะชะลอตัวลงอีก 

นางเจเนต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้แสดงความเชื่อมั่นว่า อัตราเงินเฟ้อ ของสหรัฐ จะชะลอตัวลงอีก แต่ก็เตือนว่ายังมีความไม่แน่นอนอยู่ 
นางเยลเลนกล่าวถึงความสำเร็จทางเศรษฐกิจที่คณะทำงานของประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ทำในช่วง 2 ปีแรกของการรับตำแหน่งว่า “ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลง 80 วันติดต่อกันแล้ว ซึ่งเป็นข่าวดีอย่างแน่นอน การชะลอตัวของราคาน้ำมันเบนซินทำให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงในเดือนก.ค. และดิฉันคิดว่าตัวเลขเงินเฟ้อประจำเดือนส.ค.จะชะลอตัวลงอีก อย่างไรก็ดี สถานการณ์ทั่วโลกยังคงเผชิญกับความไม่นอนอีกมาก ซึ่งความไม่แน่นอนเหล่านี้เกี่ยวกับกับรัสเซีย” 

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 8.5% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.7% หลังจากพุ่งแตะระดับ 9.1% ในเดือนมิ.ย.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี 

สำหรับดัชนี CPI ประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐนั้น จะมีการเปิดเผยในวันอังคารที่ 13 ก.ย.นี้ 

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า วิกฤตเงินเฟ้อถือเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคณะบริหารของปธน.ไบเดน เนื่องจากพรรคเดโมแครตต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งกลางเทอมของสภาคองเกรสในเดือนพ.ย.นี้ 

ทั้งนี้ นางเยลเลนกล่าวว่า “ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กำลังใช้มาตรการต่าง ๆ และมีความมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งที่จำเป็นเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แต่ดิฉันไม่ต้องการคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าว่าเงินเฟ้อจะเป็นอย่างไรในปีหน้า 
 

ที่ผ่านมานั้น นางเยลเลนเชื่อมั่นว่าเฟดจะสามารถรับมือกับปัญหาเงินเฟ้อได้ และยังกล่าวด้วยว่าขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นวงกว้าง 

3.*CPI-PPI จีนชะลอตัวในเดือนส.ค. จากผลกระทบคลื่นความร้อน-โควิดระบาด 

ราคาผู้บริโภคเดือนส.ค.ของจีนปรับตัวขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวมากกว่าคาด ท่ามกลางปัญหาจากคลื่นความร้อนและยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่เงินเฟ้อฝั่งผู้ผลิตชะลอตัวลงด้วย 
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยในวันนี้ (9 ก.ย.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนปรับตัวขึ้น 2.5% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งชะลอลงจากการปรับตัวขึ้น 2.7% ในเดือนก.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดไว้ว่าอาจจะปรับขึ้น 2.8% 

ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งสะท้อนราคาที่โรงงานจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับผู้ค้าส่งนั้น ปรับตัวขึ้น 2.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นอัตราชะลอตัวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2564 โดยชะลอลงหลังจากปรับขึ้น 4.2% ในเดือนก.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่า อาจปรับขึ้น 3.1% 

***************************** 

อ่านข่าวรวม กดที่ลิ้งค์ : /th/market-news/  

***************************** 

ข้อมูลอ้างอิง – infoquest / Reuters / Investing / Bloomberg News 

#MarketNews #ZFX #ZFXThailand  #US #USD  #เงินเฟ้อ  #Gold #ทอง   #เงินเฟ้อ #อัตราเงินเฟ้อ #Investing #Bloomberg #Forexวันนี้ #ทองคำวันนี้ #แนวโน้ม #จีน #China   #มาตรการ #covid #covid19 #โควิด #โควิด-19 #ล็อกดาวน #ตลาดหุ้น #ตลาดทอง #ตลาดทองคำ #ECB #ดอกเบี้ย #อัตราดอกเบี้ย #EU #EUR #EURUSD #Euro #Eurozone #ยุโรป #ธนาคาร #ธนาคารกลาง #ธนาคารกลางยุโรป